เมื่อไคล์ได้รับรัชทายาทอย่างเป็นทางการ และยูริยังต้องรอฤกษ์เพื่อที่จะทำพิธีส่งตัวกลับญี่ปุ่นได้
ช่วงเวลาที่ว่าไคล์และยูริก็ยังอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม (แต่ยังไม่มีอะไรกัน) และมีอุลซุล่าเข้ามาเป็นนางกำนัลคนใหม่เมื่ออุลซุล่าได้โอกาสกลับตัว ก็กลับตัวเป็นคนใหม่ พร้อมทั้งมีความตั้งใจว่าจะทำให้ยูริกับไคล์มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ่งกันให้ได้ แต่จากแผนของอุลซุล่า ทั้งคู่ก็เกือบๆ ล่ะ แต่ไคล์ยังยับยั้งชั่งใจอยู่ ด้วยติดตรงที่ว่าต้องส่งยูริกลับ
แต่ความสงบสุขก็อยู่ได้ไม่นาน (ตราบใดที่นาเกียยังอยู่) เมื่ออยู่ๆ ก็มีองค์หญิงสูงศักดิ์คนหนึ่งโผล่มา พร้อมกับเด็กน้อยที่ชื่อว่าไคล์ลูกของนาง นั่นล่ะ ใช่เลย นางมาเพื่อบอกว่าเด็กน้อยไคล์ คือลูกของไคล์ (นางตั้งใจตั้งชื่อให้เหมือนพระเอก)
เมื่อเรื่องมันเป็นเช่นนี้ ยูริ ก็นั่งแอบฟังคิกคูรี่เล่าเรื่องในอดีตไคล์ไป พร้อมๆ กับเลี้ยงลูกนกไป (ใครเคยอ่านและจำได้บ้าง ดิฉันหาที่มาอีลูกนกตัวนี้ไม่เจอค่ะ อยู่ๆ ยูริ ก็มาป้อนอาหารให้ลูกนก ไม่รู้ว่ามาจากไหนเหมือนกันค่ะ) ณ ตอนนี้เลยรู้ว่า ผู้หญิงที่มาบอกว่ามีลูกกับไคล์ คือ ลูกสาวของประธานสภาขุนนางหรือไงเนี่ยแหละค่ะ
สำหรับยูริ อยู่ในอารมณ์เหมือนจะหึง แต่ก็ไม่แสดงอาการเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ เพราะเจียมตัวอยู่ว่าเป็นสนมแต่ในนามเท่านั้น ไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ ส่วนทางไคล์ ตั้งแต่มีเรื่องขึ้นมาก็เอาแต่นิ่ง ซ้ำยังไม่ยอมพบองค์หญิงและเด็กน้อยไคล์เลย
สถานการณ์ทางไคล์ดูเหมือนจะไม่ดีเท่าไหร่ เหมือนโดนกดดันให้รีบแต่งตั้งองค์หญิงพร้อมเด็กน้อยให้เข้าวังอย่างเป็นทางการ กลับวังมาก็มาเจอยูริปั้นปึ่งใส่ จนไคล์ต้องบอกกับยูริว่าเด็กนั่นไม่ใช่ลูกตัวเอง ซึ่งเมื่อยูริได้ฟัง ก็โมโหแล้วหาว่าไคล์เป็นผู้ชายที่ไม่รับผิดชอบแล้วไม่ยอมฟังไคล์อีก จนไคล์ต้องลักพาตัวยูริไปยังสุสานของพระมารดาของตัวเอง (จุดประสงค์เพื่อพายูริมาให้แม่รู้จัก และพายูริมาหาที่คุย) เมื่ออยู่ ณ สถานที่นี้ ยูริ จึงค่อยเริ่มรับฟังไคล์ ซึ่งไคล์ยืนยันว่าเด็กนั่นไม่ใช่ลูกตัวเอง เพราะจำได้ว่าไปหาองค์หญิงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ซึ่งคำนวณเวลาแล้ว เด็กน้อยไม่มีทางเป็นลูกไคล์ได้
เมื่อยูริรับฟังเหตุผลและเรื่องราวแล้ว ก็กลับมาคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว ที่ไคล์ยังเฉย เพราะสันนิฐานว่าองค์หญิงที่ตนเองรู้จักนิสัยนั้นไม่น่าจะมาโป้ปด คิดว่าน่าจะโดนใครบงการอยู่มากกว่า แล้วจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนาเกีย เมื่อสงสัยว่าเป็นแผนนาเกีย ไคล์จึงยังไม่รีบทำอะไรบุ่มบ่าม แต่นาเกียจะทำไปทำไม เพราะหากไคล์มีลูกชาย ตำแหน่งของไคล์ก็จะยิ่งมั่นคงขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีกับนาเกีย ซึ่งคำถามนี้ก็ยังติดใจกันอยู่ และต้องรอดูท่าทีต่อไป
แล้วด้วยความที่ลูกเขย ไม่ยี่ระที่จะจัดการเรื่องลูกสาวและหลานชายซะที พ่อตาจึงอนาทรร้อนใจนัก พ่อตาจึงได้ขอเข้าเฝ้า แต่เป็นที่ราชสำนัก ดังนั้นไคล์จึงต้องไปคุยอย่างเลี่ยงลำบาก โดยก่อนไป ก็ได้กำชับกับยูรินักว่าอย่าออกนอกวังเด็ดขาด (เพราะเป็นเรื่องทุกที)
ในระหว่างอยู่เฝ้าวัง ยูริก็พบว่าอุลซุล่ากับคัชชุชอบพอกัน ยูริจึงจัดการเป็นแม่สื่อ จนถึงขั้นคัชชุขอให้อุลซุล่าไปอยู่ด้วย โดยจะขออนุญาตกับไคล์ให้เป็นเรื่องเป็นราว
แต่เมื่อไคล์ไม่อยู่ มีหรือยูริจะไม่หาเรื่อง เมื่อจู่ๆ อุลซุล่า ก็ไปแอบได้ยินนางกำนัลตำหนักนาเกีย พูดคุยกันถึงว่านาเกียสั่งซื้อยาบางอย่างมาจากอิยิปต์ จึงได้แอบขโมยออกมาเล่าให้ยูริฟัง พูดถึงอียิปต์ ยูริ เลยรีบเอาไปถามรามเสส จนรู้ว่ายาที่ว่าเป็นยาพิษ ยูริจึงประติดประต่อเรื่องโดยสรุปว่า นาเกีย กำลังวางแผนปรงพระชนม์กษัตริย์แล้วป้ายความผิดให้ไคล์ ยูริจึงรีบเดินทางไปขัดขวางแผนการ โดยการปกป้องกษัตริย์ แล้วฝากรามเสสไปแจ้งข่าวไคล์
ทางไคล์ เมื่อได้ข่าวจากรามเสส ก็ฉุกคิดว่า แผนการขนาดนี้ นาเกีย ไม่น่าจะปล่อยให้หลุดมาถึงหูนางกำนัลได้ แต่ไคล์เอะใจช้าไปก้าวหนึ่ง เมื่อยูริไปเจอจูดาแถวนั้น แล้วร่วมมือกัน (ได้เรื่องตลอด) ปกป้องกษัตริย์ ซึ่งแรกเริ่มก็ดูเหมือนจะช่วยไว้ได้ทัน แต่แล้วจังหวะเผลออุลฮีก็จัดการแทงอกกษัตริย์แล้วผลักให้ล้มลงบนตัวยูริ แล้วข้ารับใช้ที่อยู่ด้านนอกซึ่งได้ยินเสียงโวยวายในห้องก็เข้ามาพอดี (อุลฮีหนีไปล่ะ)
สถานการณ์วิกฤตขั้นร้ายแรง จู่ๆ อิชทาร์ ชายาของรัชทายาทไคล์ ก็เป็นผู้ร้ายปลงพระชนม์ เพื่อให้ไคล์ได้ขึ้นครองบัลลัง อีกทั้งไคล์ยังโดนกดดันจากสภาขุนนางอยู่แล้ว ด้วยไปทำลูกสาวประธานเขาท้องแล้วไม่รับ
อย่างไรก็ตาม ไคล์ไม่ยอมให้จับยูริอย่างแน่นอน ทางการสืบสวนคดีนั้น แรกเริ่มเดิมทีดูท่าน่าจะมีหวัง เพราะจูดาช่วยเป็นพยานให้ยูริได้ และเต็มใจว่าจะช่วย แต่จู่ๆ ท่าทางจูดาก็เปลี่ยนไป แล้วยังร่วมกล่าวหาว่ายูริคือคนร้าย ถูกต้อง ณ ขณะนี้นาเกียถึงขั้นใช้เวทย์มนต์กับลูกชายตัวเอง เพื่อจะจัดการยูริกับไคล์ให้ได้ เมื่อสถานการณ์คับขันจึงตัดสินใจส่งยูริออกนอกฮัตตูซ่า โดยให้ไปอยู่ที่เผ่าของสามสาวพี่น้อง ส่วนตัวเองก็อยู่รับหน้าทางนี้ ในระหว่างที่ยูริและสามสาวพี่น้องเดินทางออกนอกฮัตตูซ่า รามเสสที่สังเกตการณ์อยู่ก็กระหยิ่มยิ้มย่องล่ะ ยูริอยู่ห่างจากไคล์ล่ะ
เมื่อไคล์ส่งตัวยูริออกไปแล้ว ก็ทำมึนกับคำขอให้ส่งตัวยูริมาสืบสวน โดยบอกว่าเผ่าของสามสาวอยู่นอกเหนืออำนาจของตัวเอง แต่ทางนาเกียและพ่อตายังไม่เลิกกดดัน ไคล์จึงนิ่งแล้วขอให้องค์หญิงและเด็กน้อยเข้าเฝ้า จากนั้นขอกอดองค์หญิง องค์หญิงก็โผเข้าหาด้วยความดีใจ แต่ที่ไหนได้ พี่ท่านรัดซะแน่น จนองค์หญิงคายน้ำดำ ซึ่งเป็นเวทย์มนต์ของนาเกียออกมา แล้วมีสติกลับคืน (แต่จำเรื่องราวทุกอย่างได้หมด) ไคล์จึงขอให้เล่าเรื่องราวอีกครั้ง องค์หญิงจึงได้เล่าความจริง จริงๆ ออกมาซะที ว่า หลังจากไคล์เลิกไปหา ด้วยความคิดถึง จึงได้มีเผลอมีอะไรกับนักดนตรีที่ลักษณะเหมือนไคล์ จนมีเด็กคนนี้ออกมา และด้วยยังไม่เลิกอาลัย จึงตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่าไคล์ และตั้งใจจะเลี้ยงดูให้ดี ซึ่งองค์หญิงก็ไม่ได้บอกอะไรกับท่านพ่อเลย แต่ท่านพ่อประติดประต่อเรื่องเอาเอง
จากนั้นไคล์จึงใช้โอกาสต่อหน้าสาธารณชน (บรรดาขุนนางทั้งหลาย) สอบสวนต่อว่า ทำไมองค์หญิงจึงโดนเวทย์เข้าไป จนองค์หญิงนึกขึ้นได้ว่าได้รับไวน์จากพระชนนีนาเกีย เท่านั้นล่ะ จึงเกิดกระแสสงสัยถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของจูดา ซึ่งแต่แรกเข้าข้างยูริ แต่จู่ๆ ก็เปลี่ยนไป
ไคล์จึงรีบใช้จังหวะนี้ล่ะ เบนเป้าไปทางจูดาต่อทันที แต่มีหรือนาเกียจะยอมง่ายๆ หล่อนเสียงแข็งว่าห้ามแตะต้องลูกชายหล่อนเด็ดขาด (หล่อนยังมี power อยู่ไม่น้อย) แต่มีหรือพระเอกเราจะกลัว ไม่ ไคล์ยังคงยืนกรานจะขอพิสูจน์จูดาให้ได้ จนนาเกียใช้ทีเด็ด ขู่ว่าหล่อนในฐานะองค์หญิงจากบาบิโลเนีย จะไม่ยอมให้แตะต้องจูดา ไม่งั้นจะมีสงครามแน่ เท่านั้นล่ะ สถานการณ์จึงกลับไปยักแย่ยักยันกันเหมือนเดิม
ฟากยูรินั้น ได้แต่เฝ้ารอให้ไคล์มารับ แต่ไคล์กลับส่งรูซาฟามาแทนก่อน เพื่อมาเสริมกำลังและส่งข่าวให้กับทางยูริด้วย
ในสถานการณ์ตึงเครียดเช่นนี้ ฝ่ายที่ตัดสินใจลงมือก่อนคือนาเกีย เรื่องเล่าย้อนไปที่แรงขับดันอันแรงกล้าของนาเกีย เพราะนางเป็นองค์หญิงจากบาบิโลเนีย ซึ่งถูกขาย (ส่งมาบรรณาการ) ให้กับกษัตริย์ฮิตไทต์ ซึ่งแก่คราวพ่อ (พ่อพระเอกนั่นลา) ซึ่งเมื่อนางมาอยู่ฮิตไทต์ นางก็หัวเดียวกระเทียมลีบ เป็นเพียงองค์หญิงเมืองเล็ก ที่ถูกส่งมาบรรณาการ ท่ามกลางบรรดาชายาและองค์ชายชั้นสูงมากมาย อีกทั้งราชินีองค์ก่อน (แม่ไคล์) อีก นางรู้สึกเจ็บแค้นในโชคชะตานัก จึงได้สาบานว่า เลือดเนื้อเชื้อไขของนาง จะต้องได้ปกครองฮิตไทต์ให้ได้
ด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้า กับสถานการณ์ตอนนี้ นาเกียจึงได้สั่งให้อุลฮี จัดทัพไปจัดการกับยูริให้ได้ ในฐานะที่ยูริคือคนร้ายที่ปลงพระชนม์ (ไม่รงไม่รอไต่สวนใดๆ ทั้งสิ้น นางจะให้อำนาจนางในตอนนี้จัดการยูริให้ได้)
เมื่อไคล์รู้ข่าว จึงรีบผลุนผลันจะไปช่วยยูริ แต่อิลบานีขวางไว้ เพราะหากไป จะกระทบกับตำแหน่งของไคล์ทันที เนื่องจากสถานการณ์นี้คือเท่ากับยอมรับว่าไคล์ส่งยูริให้ไปปลงพระชนม์ เพื่อตัวเองจะได้ครองราชย์ อีกทั้งอิลยังได้เสนอทางเลือกที่ดีที่สุดกับทุกฝ่ายออกมาอีกทางหนึ่ง คือ ให้ยูริจัดการกับตัวเองซะ ทุกอย่างก็จะจบ และไคล์ก็จะยังสามารถขึ้นครองราชย์ได้ เมื่อได้ยินดังนั้นไคล์ก็โกรธอิลมาก และจังหวะพอเหมาะพอเจาะกับทางยูริ ทาลอส พ่อของพวกฮาดี้ อีกทั้งยูริ ก็พูดขึ้นมาเหมือนอิล นั่นคือ ยูริรู้ตัวดีว่ากับสถานการณ์เช่นนี้ ตัวเองควรจะฆ่าตัวตายเสียก่อนที่จะโดนอูลฮีจับได้ (ถ้าโดนนาเกียจับไป ก็ถูกทำพิธีสาปอีก) แล้วทางไคล์ก็มาช่วยไม่ได้ด้วย
แต่สุดท้ายในการตัดสินใจของยูริคือ ถ้าไคล์มาช่วยไม่ได้ ตัวเองก็จะเป็นฝ่ายกลับไปที่ฮัตตูซ่าด้วยตัวเอง และจะไม่ยอมโดนอุลฮีจับด้วย
เมื่อยูริตัดสินใจได้ ขั้นต่อไปคือจะต้องฝ่ากองทหารของอุลฮีออกไปให้ได้ ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุดคือ จัดการอุลฮีซะ ดังนั้นจึงหันไปถามรูซาฟาว่าในฐานะหัวหน้ากองธนู จากระยะอุลฮี คิดว่าจะจัดการได้มั้ย แม้แรกเริ่มจะลังเลอยู่บ้าง แต่เมื่อยูริเชื่อใจ รูซาฟาเลยจัดให้ จึงหันไปขอธนูที่แข็งแกร่งที่สุดจากทาลอส แล้วก็จัดการยิงธนูที่ไม่มีทางเป็นไปได้ ไปโดนตาข้างหนึ่งของอูลฮี (แค่เสียตาไปข้าง) แล้วยูริและฮาดี้จึงอาศัยจังหวะนี้ควบม้าฝ่าวงล้อมออกมา
ในสถานการณ์คับขันนี้ ฝาแฝดที่ยูริส่งออกมาก่อน ก็มารายงานขอให้ไคล์ไปช่วยทางยูริ ซึ่งอิลก็มาขวางไว้อีกรอบ แต่รอบนี้ไม่ได้มาตัวเปล่า อิลเตรียมมีดมาด้วย แล้วก็ควักออกมา แต่เปล่าเลยไม่ได้เตรียมมีดมาขวางไคล์ แต่เตรียมมีดมาฆ่าตัวตาย เพราะหากไคล์ตัดสินใจทิ้งทุกอย่างแล้วไปช่วยยูริ ตัวเองก็ขอตายดีกว่าการอยู่เห็นฮิตไทต์พินาศ
เรื่องราวยังเข้มข้น ยูริและฮาดี้ ยังคงโดนทหารของอุลฮีไล่ต้อนอย่างหนักจนยูริและอัสลัน(ม้า)ตกผาสู่แม่น้ำแดง แต่แล้วระหว่างที่ยูริจมอยู่ในน้ำและกำลังคร่ำครวญถึงไคล์ ก็มีคนควบม้าวิ่งผ่านฮาดี้ (ที่อยู่บนผา) กระโดดลงมา แล้วคว้าตัวยูริขึ้นมาจากแม่น้ำแดง เขาคนนั้นคือรามเสสที่รอจังหวะนี้อยู่นานแล้วนั่นเอง
เมื่อยูริเห็นว่าเป็นรามเสสที่เข้ามาช่วย จึงรีบขอให้รามเสสช่วยพากลับไปหาไคล์ทันที รามเสสจึงตอบทันทีโดยไม่ต้องคิดว่าเรื่องสิ เพราะตัวเองรอจังหวะนี้มานาน ซึ่งยูริก็ไม่เข้าใจว่ารามเสสจะทำแบบนี้ไปทำไม แต่คำตอบของรามเสสคือการบอกว่าตัวเองเป็นคนที่ถ้าต้องการอะไรก็จะแย่งเอา ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือเมืองก็ตาม แต่ยูริกลับตีความสงสัยว่าหรือว่ารามเสสต้องการแย่งชิงบัลลังก์เหมือนกัน โดยสำหรับรามเสสนั้นก็ต้องการขึ้นปกครองบัลลังก์เหมือนกัน แต่เป็นที่อียิปต์ โดยรามเสสก็ได้เล่าถึงความเน่าเฟะของภายในอียิปต์ตอนนี้และมีแนวคิดในการปกครองที่ดีที่เหมือนๆ กับไคล์ และสำหรับผู้จะต้องปกครองอาณาจักรได้อย่างดีนั้น จะต้องมีผู้หญิงที่เหมาะสมที่อยู่เคียงข้างด้วย พูดมาถึงตอนนี้ยูริถึงเข้าใจว่ารามเสสต้องการจะลักพาตัวเอง
แล้วรามเสสก็เอายูริไปดื้อๆ ฉะนี้แล ในขณะที่ฮาดี้ที่อยู่อีกฝากของแม่น้ำแดงได้แต่มอง
ด้านไคล์ ที่ทำได้แค่อยู่เฉยๆ ด้วยอารมณ์บูดบึ้ง บรรดาคนสนิทก็ได้แค่จับกลุ่มคุยกันว่าจะทำเยี่ยงไรดี ท่านเสธอย่างอิลก็สรุปมาว่าทางเดียวคือต้องจับอุลฮีคนร้ายตัวจริงได้ แต่ในเมื่อคนร้ายตัวจริงเป็นคนสนิทนาเกีย ไม่มีทางจับได้ง่ายๆ แน่ ดังนั้นแล้วหากมีคนยอมรับว่าตัวเองเป็นคนร้ายล่ะ อิลเลยบอกไว้เลยว่าโทษตายน่ะนั่น ซึ่งทุกคนก็ได้แต่เงียบไป แต่ก็มีอยู่หนึ่งคนที่เก็บกลับมาคิดเป็นจริงจัง คนนั้นคืออุลซุล่า เพราะนางรู้สึกผิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุของเรื่องราว ที่โดนหลอกใช้ให้เอาข่าวปลอมมาบอก ทำให้ยูริหลงกล
แล้วฮาดี้ที่รีบเดินทางมาก็กลับมาถึง แล้วรีบรายงานว่ายูริโดนรามเสสจับตัวไป เท่านั้นละ ไคล์อ๋อทันที ว่าไอ่นี่ ที่ไม่ถูกขี้หน้านั้น มาป้วนเปี้ยนอยู่ทำไม เพราะจ้องหาโอกาสเอาตัวยูริไปนี่เอง (หล่อนโดนจับอีกล่ะ) คราวนี้เลือดหึงขึ้นหน้าด้วย รอบนี้อิลจึงเอาไม่อยู่ ไคล์จึงรีบเดินทางไปตามยูริโดยทันที
เมื่อไคล์ตัดสินใจและเดินทางไปช่วยยูริ สถานการณ์ของการแย่งชิงบัลลังก์จึงเข้าขั้นวิกฤต เมื่ออุลซุล่าเห็นทุกคนวุ่นวายกัน จึงตัดสินใจรวบรวมความกล้าแอบไปมอบตัวว่าเป็นคนร้าย
การกระทำของอุลซุล่าเป็นเรื่องราวที่ไม่มีใครคาดคิด (นางแอบไปคนเดียว) แต่เมื่ออุลซุล่ากล้าและตัดสินใจ อิลจึงใช้โอกาสนี้ตามน้ำอุลซุล่า โดยเป็นผู้สอบถามว่าใครเป็นคนบงการ อุลซุล่าก็รับมุก บอกว่าเป็นนาเกีย แต่เพียงเท่านี้ ยังไม่สามารถจัดการนาเกียได้ เพราะไม่มีหลักฐาน อีกทั้งประวัติอุลซุล่าก็ไม่ดี เพราะเคยมีคดีปลอมตัวเป็นอิชทาร์ นาเกียเลยยืนกระต่ายขาเดียวว่าอย่ามาใส่ร้ายนาง แล้วสะบัดบ๊อบจากไป
สถานการณ์ของอุลซุล่านี้ มีเพียงคนเดียวที่จะช่วยอุลซุล่าได้ คือ ไคล์ คัชชุจึงรีบที่จะไปตามไคล์มาโดยด่วน แต่อิลก็ขัดขาไว้ (อีก) โดยให้นึกถึงการเตรียมใจที่จะเสียสละของอุลซุล่า และนี่เป็นทางเดียวที่จะทำให้ยูริพ้นข้อหาและไคล์ได้ขึ้นครองบัลลังก์ แต่คัชชุยังไม่ตัดใจ แต่ได้เปลี่ยนวิธีใหม่ โดยใช้เส้นสายเพื่อที่จะแอบช่วยอุลซุล่า เมื่อลอบเข้าไปหาอุลซุล่าได้สำเร็จ แต่อุลซุล่ากลับไม่ยอมหนี กลับขอให้คัชชุช่วยให้ฝันตัวเองเป็นจริงด้วย ซึ่งฝันนั้นก็คือการได้เห็นไคล์เป็นกษัตริย์ มียูริเป็นราชินี โดยก่อนจากอุลซุล่าได้ตัดผมตัวเองให้คัชชุไว้เป็นที่ระลึก
ข่าวเรื่องอุลซุล่าได้ถูกแพร่กระจายออกไป ซึ่งยูริได้ข่าวจากรามเสส แม้จะตกใจ แต่เชื่อมั่นว่าไคล์ต้องช่วยอุลซุล่าได้แน่ แต่ทางไคล์นั้น บรรดาคนสนิทได้แผ่นดินเหนียวแจ้งข่าว แต่คุยตกลงกันว่าจะปิดข่าวกับไคล์ไว้ (ด้วยเหตุผลเดียวกับอิล เพราะนี่คือทางออกที่ดีที่สุด)
ไคล์ที่สงสัยว่าปิดบังอะไรกันอยู่นั้น ก็จัดการจะคาดคั้นเอากับคิกคูรี่ แต่ยังไม่ทันได้เรื่องอะไร ทหารก็เข้ามารายงานว่าอัสลันกลับมา (ยูริพยายามหนีรามเสส แต่ไม่สำเร็จ อัสลันเลยวิ่งออกมาตัวเดียว) พร้อมกับทำท่าทางว่าอยากให้ตามไป ไคล์ก็เข้าใจภาษาม้าเอาตอนนี้ เลยปล่อยให้อัสลันนำทาง
แล้วเหตุการณ์พลิกเรื่องทุกอย่างนี้ ก็เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน ทางฮัตตูซ่าได้ทำการประหารอุลซุล่า ท่ามกลางการความยินดีของประชาชน คัชชุที่ได้แต่หลบมุมกำเส้นผมของอุลซุล่าด้วยความเจ็บใจ ทันทีที่ประหารอุลซุล่าเสร็จ ฝ่ายไคล์ที่ฮัตตูซ่าก็เคลื่อนไหว โดยส่งทัพมาเสริมไคล์และยูริโดยทันที
ขณะนั้นยูริกำลังจะโดนรามเสสปล้ำ (อีกแล้ว) ไคล์ที่ตามอัสลันมาก็ถีบประตูผัวะเข้ามา แล้วไคล์กับรามเสสก็ได้ประจันหน้ากันอย่างเป็นทางการครั้งแรก ซึ่งจากการประดาบกันนี้ ทำให้ทั้งคู่รู้ฝีมือกัน โดยในระหว่างที่กำลังประดาบกัน (ดิฉันรอฉากนี้ล่ะค่ะ) กองหนุนของไคล์ก็มาถึง เมื่อรามเสสเห็นว่าเริ่มจะไม่ใช่สู้ตัวต่อตัว และไม่มีทางจะได้สู้ตัวต่อตัวด้วย เพราะไคล์เป็นรัชทายาท เลยตัดสินใจถอยไปก่อน
เมื่อรามเสสหนีไปจึงเข้าไปปลอบยูริที่กำลังขวัญเสีย แต่แล้วคัชชุที่เพิ่งเดินทางมาถึงก็เข้ามารายงานทั้งคู่เรื่องสถานการณ์ที่ฮัตตูซ่า ยูริที่รู้ข่าวอุลซุล่าอยู่แล้วแต่คิดว่าไคล์ต้องช่วยอุลซุล่าได้ เห็นคัชชุมีที่คาดศรีษะเป็นเปียผมสีดำ จึงรู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไคล์ไม่รู้เรื่อง ซึ่งคัชชุก็ได้เป็นคนอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง
ยูริที่เพิ่งรู้เรื่องอุลซุล่า ก็พร่ำโทษว่าทำไมไคล์ไม่ช่วยอุลซุล่า คัชชุเลยรีบบอกว่าเพราะไคล์ไม่รู้เรื่อง แล้วยูริก็ถามบรรดาคนสนิทที่เพิ่งวิ่งเข้ามาถึงว่าทุกคนรู้เรื่องอุลซุล่า แต่ไม่ยอมบอกไคล์แล้วปล่อยให้อุลซุล่าตายใช่หรือเปล่า ทุกคนก็ได้แต่นิ่งเงียบเป็นคำตอบ ซึ่งมาถึงตอนนี้ยูริก็ได้แต่ช๊อค และรับไม่ได้กับสิ่งที่ทุกคนทำเพื่อให้ไคล์ได้ขึ้นครองราชย์ ถึงขนาดยอมปล่อยให้อุลซล่าตาย
ไคล์ที่นิ่งเงียบฟังเรื่องราว ก็ได้ถามว่านี่เป็นความตั้งใจของอุลซุล่าเองใช่หรือเปล่า คัชชุจึงได้บอกถึงความตั้งใจของอุลซุล่า เมื่อไคล์รับรู้ถึงความตั้งใจที่จะเสียสละของอุลซุล่าจึงได้ตัดสินใจสั่งการต่อทันที โดยรีบจัดการขับไล่ทัพทหารของนาเกียและจับเป็นอุลฮีให้ได้ เพื่อเปิดโปงนาเกีย แล้วพายูริที่กำลังช๊อคอยู่กลับฮัตตูซ่า ยูริเห็นดังนั้นยิ่งช๊อคเข้าไปใหญ่ว่าทำไมทุกคนถึงทำเหมือนการเสียสละของอุลซุล่าเป็นเรื่องปกติ ยูริยิ่งรับไม่ได้
ในการพยายามจับอุลฮีนั้น ทางฝากไคล์และยูริได้ไล่ต้อนอุลฮีจนมาสุดหน้าผา โดยพยายามกล่อมเพื่อจับเป็น แล้วให้มาเปิดโปงนาเกียและล้างความผิดให้อุลซุล่า ด้วยทันทีที่สถานการณ์พลิกเพราะอุลซุล่ามอบตัว นาเกียก็ตัดหางปล่อยวัดอุลฮีทันที ยูริจึงคาดหวังว่าอุลฮีอาจจะให้ความร่วมมือ เพราะโดนนาเกียหักหลัง แต่เปล่าเลย อุลฮียอมกระโดดหน้าผาลงไป แทนที่จะโดนจับ ยิ่งนำมาซึ่งความสงสัยกันเข้าไปใหญ่ ทำไมอุลฮีต้องทำเพื่อนาเกียขนาดนี้
เมื่อกลับมาถึงฮัตตูซ่าแล้ว และปราศจากข้อกล่าวหาของทั้งไคล์และยูริแล้ว ไคล์จึงได้เข้ารับแต่งตั้งเป็นกษัตริย์ ท่ามกลางบรรยากาศที่มึนตึงกันอยู่กับยูริ ยูริที่ยังทำใจไม่ได้จึงไม่ยอมเข้าร่วมพิธีแต่งตั้งของไคล์ ซึ่งไคล์เองก็ตามใจ ในพิธีแต่งตั้ง (พระนามคือเมอร์ซิลิสที่2 พ่อไคล์คือเมอร์ซิลิสที่1 ส่วนพี่ชายที่เพิ่งตายใช้พระนามอื่น) มีพระชาชนมากมายมาร่วมอวยพร แต่แล้วเมื่อประชาชนไม่เห็นยูริอยู่ข้างไคล์ จึงเริ่มส่งเสียงเรียกหาอิชทาร์ เมื่อยูริได้ยินดังนั้นจึงตัดสินใจมาร่วมพิธี แต่มาด้วยชุดทหาร พร้อมทั้งอวยพรและให้สัญญาว่า ตราบใดที่ยังอยู่ที่นี่ จะรับใช้ในฐานะอิชทาร์ (ตีความว่า เท่ากับยูริปฏิเสธฐานะชายา มั้งน่ะ)
to be continue...
แม้ไคล์จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ได้สำเร็จ แต่เรื่องราวยังไม่จบ เพราะนาเกียยังอยู่น่ะจ๊ะ
![]() |
จู่ๆ ก็มีองค์หญิงพาเด็กมา แล้วบอกว่าเป็นลูกไคล์ |
![]() |
คู่นี้ต่อปากต่อคำกันหนักหนา ที่ไหนได้ แอบชอบกันอยู่นี่เอง |
![]() |
ยูริหลงกลนาเกียอีกแล้วจ้า กษัตริย์องค์ใหม่ ไปซะล่ะ |
![]() |
อย่ามาแตะลูกชั้นน่ะ!! |
![]() |
ไคล์โกรธจัด เมื่ออิลบอกว่าทางออกที่ดีที่สุด คือให้ยูริฆ่าตัวตายซะก่อนที่จะโดนอุลฮีจับ |
![]() |
เตรียมมีดมาพร้อม ไม่ได้เอามาสู้น่ะ5555 เตรียมมาขู่ ถ้าไคล์ไม่ใช่คนปกครอง แต่เป็นนาเกีย บ้านเมืองพินาศแน่ ขอตายตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า |
![]() |
ชู้ดิฉันออกมาทีไร กินเนื้อที่หน้ากระดาษทู้กกกกที |
![]() |
ผู้หญิงข้า ใครอย่าแตะ หน้าไหนก็ขวางไม่อยู่ |
![]() |
การเตรียมใจที่จะตายของอุลซุล่า เพื่อให้ยูริกลับฮัตตูซ่าได้ และไคล์ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ |
![]() |
ไคล์ที่อยู่ระหว่างตามยูริ เดินเข้ามาถามว่ามีข่าวอะไรมาจากฮัตตูซ่า แต่บรรดาคนสนิททั้งหลายกลับพร้อมใจกันเงียบ แล้วปล่อยก้อนหินเหนียว (ข่าว) ให้ตกแตก |
![]() |
ไคล์ที่สงสัยว่าปิดบังอะไรกันอยู่ มาคาดคั้นเอากับคิกคูรี่ (5555 โดนตลอด) |
![]() |
คัชชุ ที่หลบมาเสียใจ ในขณะที่อุลซุล่าถูกประหาร |
![]() |
ประดาบกันครั้งแรกค่าาาาา ดิฉันรอคู่นี้มาเจอกันนี่ล่ะค่าาาา |
![]() |
คัชชุเล่าเรื่องอุลซุล่า โดยบนศรีษะมีเปียผมของอุลซุล่าอยู่ |
![]() |
ณ วินาที ที่สวมมงกุฎ กลับมาหลงรักอีกทีก็ช๊อตนี้ล่ะค่าาาา กรี๊ด กร๊าด ไปสามวันได้ |
![]() |
ประชาชนยินดีกับการครองราชย์ของไคล์ แต่ต้องมีอิชทาร์อยู่ข้างกายด้วย เรียกร้องหากันใหญ่ |
![]() |
ยูริเลือกมาในฐานะอิชทาร์ มากกว่าในฐานะชายา |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น