แล้วเรื่องราวก็กระโดดไปที่หลายเดือนต่อมา ก็ใกล้จะได้เวลาฤกษ์ที่จะส่งยูริกลับได้แล้ว (ตั้งแต่ยูริมาก็ผ่านมาเกือบปีได้) ทางฟากฮิตไทต์เอง หลายฝ่ายก็ไม่รีบร้อนอะไร ปิดล้อมไปเรื่อยๆ เดี๋ยวไมเทนนี่ก็อดตายเอง แต่เจ้าชายไคล์จะไม่รอ เพราะต้องรีบส่งยูริกลับ แล้วจะทำยังไง? เจ้าชายไคล์มีไอเดียว่าจะส่งนักฆ่าเข้าไป เพราะขอแค่จัดการกษัตริย์ไมเทนนี่และองค์ชายรัตติกาลได้ ทุกอย่างก็จะจบ แต่ที่ผ่านมาทางไมเทนนี่เองไม่ยอมเปิดประตูเพื่อรับเสบียงที่ฮิตไทต์ทำทีว่าจะส่งให้เลย เลยยังไม่มีโอกาสส่งนักฆ่าเข้าไป
ทางกษัตริย์ฮิตไทต์เองก็ไม่ได้ว่าอะไรกับแผนของไคล์ ตามใจและปล่อยให้เป็นหน้าที่ไคล์ไปเลย หลังจากที่คุยกันเรื่องแผนส่งนักฆ่าเสร็จแล้ว อิลได้จังหวะ ก็เข้ามาเป่าหูไคล์อีก ว่าไม่จำเป็นต้องรีบ เพราะเดี๋ยวไมเทนนี่ก็อดตายเอง ไคล์เลยหันไปมองตอบด้วยหางตา ว่า แล้วทำให้ยูริเป็นราชินีงั้นสิ (มั้ง อันนี้ไม่ชัวร์ แต่ประมาณนี้แหละ) ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้อิลยังไม่เห็นด้วยกับการรับยูริเป็นชายาเลยแท้ๆ ทางอิลเองก็ไม่ยี่ระกับคำจิก ตอบอย่างธรรมดาว่า ก็ก่อนหน้านั้นไม่รู้หนิ ว่ายูริจะมีคุณสมบัติเหมาะสมขนาดนี้ แต่อิลก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจไคล์ได้ เพราะสัญญาที่ให้ไว้กับยูริ
จังหวะที่กำลังหาทางส่งนักฆ่าเข้าไปนั้น อยู่ๆ นาเดีย ก็มาร้องห่มร้องไห้ว่าจะขอเข้าไปในเมืองเพื่อไปหาสวามี (เขาไม่เอาหล่อนมาด้วย แต่หล่อนยังตามมา) ทีแรกกษัตริย์ฮิตไทต์ไม่ให้ แต่ไคล์มารั้งไว้ก่อน ด้วยเหตุผลว่า สนมจะมีนางในติดตามด้วยก็ไม่แปลก เป็นโอกาสให้เราส่งนักฆ่าเข้าไป
เมื่อแผนการโอเคแล้ว (ไมเทนนี่ยอมให้นาเดียเข้าไป) แล้วจะส่งใครเข้าไปเป็นนักฆ่าล่ะ ทางแม่ทัพทั้งสามของไคล์ก็แย่งกันจะเข้าไปใหญ่ (พวกท่านๆ ทั้งหลายต้องคลุมผ้าเป็นนางในเข้าไปน่ะย่ะ คัชชุ กับ มิตตัน (ชื่อเต็มมิตตันนามูว่า ยาวไป เรียกย่อล่ะ) ถึกไป รูซาฟาพอไปไหว) แต่แล้วไคล์ก็โผล่มาแย่งบท ว่าจะเข้าไปเป็นนักฆ่าเอง ซึ่งบรรดาลูกน้องทั้งหลายก็ห้ามอยู่ เพราะอันตราย แล้วยิ่งไคล์เป็นแม่ทัพด้วยแล้ว แต่ไคล์จะเข้าไปหายูริซะอย่าง บรรดาลูกน้องก็เลยต้องยอมไป
ทางด้านยูริ เรื่องสื่อบอกเพียงว่าโดนขังไว้เฉยๆ (ในระหว่างหลายเดือนที่ผ่านมา ไม่มีบอกว่าหล่อนอยู่ยังไง) แล้วก็งอแงว่าจะกลับไปหาเจ้าชายไคล์ เจ้าชายรัตติกาลหมั่นไส้เลยจะจับปล้ำ (จากเรื่องราวทั้งหมด ต้องตีความเอาเองล่ะ ว่าพี่ท่านชอบยูริหรือเปล่า หรือแค่จะปล้ำเพราะหมั่นไส้เฉยๆ) แล้วยูริก็โดนจับแก้ผ้า จะถูกปล้ำอีกล่ะ
ทางไคล์เมื่อเข้ามาได้แล้ว ก็สังเกตเห็นความผิดปกติ ดูกำลังทหารมันหล่ะหลวม แล้วเรื่องก็สวิทช์มาทางยูริต่อ ขณะกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม โดนปล้ำอยู่ อยู่ๆ ก็มีคนเปิดประตูเข้ามา ทหารของไมเทนนี่นั่นเอง และแล้วไมเทนนี่ก็มีการก่อกบฏ ฝ่ายกบฏเข้ามาเพื่อที่จะฆ่าองค์ชายรัตติกาล และก่อนหน้าที่จะมาก็ฆ่ากษัตริย์ไปแล้วเรียบร้อย จังหวะสู้กันอยู่นั้น ยูริกำลังจะโดนลูกหลง องค์ชายรัตติกาลโผเข้ามาบังยูริ และนาเดียที่ไม่รู้มาจากไหน โผเข้ามาบังสวามี อีกที สรุปคนโดนฟันคือนาเดีย (แต่แค่บาดเจ็บ)
แล้วเมื่อองค์ชายรัตติกาลจัดการกับสถานการณ์ภายในห้องได้หมด (แต่ข้างนอกมีกบฏแล้ว) นาเดียก็ขอให้หนีไปด้วยกัน แล้วยูริก็ช่วยพูดให้ซาบซึ้งว่านาเดียรักองค์ชายรัตติกาลแค่ไหน และด้วยสถานการณ์นี้องค์ชายรัตติกาลพาหนีไปได้แค่คนเดียว ก็เลยจะปล่อยยูริไปหาไคล์ โดยก่อนไปก็ได้ให้เครื่องประดับที่อยู่บนหน้าผาก (อันเดียวกับที่เป็นต่างหูของพี่สาวเขา) ให้ยูริ เพื่อแสดงให้ทหารไมเทนนี่รู้ว่ายูริได้รับอนุญาตแล้ว (ประหนึ่งเป็นใบผ่านทาง และหลังจากนั้นจะกลายเป็นจี้ห้อยคอของยูริ)
ในขณะที่กำลังวิ่งวนอยู่ในเมืองที่วุ่นวาย อยู่ๆ ยูริก็โดนคว้าหมับแล้วจับไปจูบ ถูกต้องท่านไคล์ของเรานั่นเอง แล้วก็จูบกันไปคุยกันไป ยูริเล่าว่าองค์ชายรัตติกาลได้หนีไปแล้ว แล้วถามไคล์ว่าจะตามไปมั้ย ไคล์เลยเช็คว่ายูริมีอะไรกับเจ้าชายรัตติกาลหรือยังโดยดูจากพฤติกรรมของยูริ ซึ่งก็พบว่ายูริยังโอเคอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีเรื่องให้ต้องไปตามองค์ชายรัตติกาลอีก (อารมณ์ว่าถ้าเสร็จกันไปแล้ว จะไปตามแก้แค้นต่อมั้ง)
สรุปเรื่องราว และแล้วไมเทนนี่ก็จบเห่หมดแล้วจ้า ทีนี้ยูริก็ต้องรีบเดินทางกลับฮัตตูซ่า (เมืองหลวงของฮิตไทต์) โดยทันที เพื่อให้ทันฤกษ์ที่จะทำพิธีส่งยูริกลับญี่ปุ่น ซึ่งจากการประเมินในเบื้องต้น คิดว่าทันโดยฉิวเฉียด
ทางอิลที่มองดูยูริและไคล์เตรียมจะรีบเดินทางกลับ ก็ชวนคิกคูรีหลบออกมา แล้วมาถามหาอุลฮี (เพิ่งรู้ว่าฮียังเป็นนักบวชอยู่ในทัพ) จนรู้ว่าอุลฮีอยู่ตรงไหน แล้วก็ทำทีไปคุยกับคิกคูรี่ใกล้ๆ ให้อุลฮีได้ยิน (โดยที่อุลฮีไม่รู้เรื่อง) เรื่องที่ยูริที่กำลังจะกลับ เมื่ออุลฮีได้ยินเลยรีบผลุนผลันออกไป อิลเราก็ยิ้มกริ่มอย่างสมใจ คิกคูรี่ก็งงไป 5555 แล้วบอกว่าอย่างนี้อุลฮีก็ต้องวางแผนไม่ให้ยูริกลับได้ซิ อิลเลยบอกว่านั่นละที่ต้องการ 5555
ขณะที่ควบม้ารีบเดินทางกลับ ก็มาถึงบริเวณสะพานแห่งหนึ่ง ก็พบว่าสะพานไฟไหม้ สาวเรื่องไปก็พบว่าฝีมืออุลฮีนั่นแหละ (อิลพูดขึ้นมาอย่างหน้าตาเฉยว่าอุลฮีนี่ร้ายกาจจริงๆ คิกคูรี่หันไปมองอย่างพูดไม่ออก 5555) แล้วก็พยายามหาทางอื่นเพื่อที่จะเดินทางได้ แต่ก็พบว่ากว่าจะสร้างสะพานใหม่ (มั้งน่ะ) ก็ต้องใช้เวลาหลายเดือน สรุปยูริกลับไม่ทันจ้าาาาาา หล่อนต้องอยู่ต่ออีกปี ยูริก็คร่ำครวญร้องไห้เสียใจไป ไคล์ก็รู้สึกไม่ดี
(สรุปน่ะค่ะ ยูริมาปุ๊บ ก็มีฤกษ์ส่งกลับเลย แต่หล่อนขอแก้แค้นให้ทีโต้ก่อน จนผ่านมาปีนึงตอนนี้ก็ไม่ได้กลับเพราะโดนอิลขัดขาไว้ นั่นคือตอนนี้ยูริหลงยุคมาแล้ว 1 ปี)
เรื่องยังไม่จบ เพราะยูริยังไม่กลับ ราชินียังไม่ได้หัวยูริ
![]() |
อิลขอให้ไคล์รั้งยูริไว้ ไคล์ตอบด้วยหางตา นายไม่ใช่เรอะที่ไม่เห็นด้วยตอนแรก อิลตอบอย่างไม่แยแส ก็ตอนนั้นไม่รู้ 555 |
![]() |
แย่งกันว่าใครจะเป็นคนปลอมเป็นผู้หญิงเข้าไป พระเอกเราจัดเอง |
![]() |
โดนจับแก้ผ้า กำลังจะโดนปล้ำ (อีกล่ะ) |
![]() |
องค์ชายรัตติกาลเข้ารับดาบแทนยูริ แต่.... |
![]() |
นาเดียวิ่งเข้ามารับดาบแทนพี่ท่านอีกที |
![]() |
ให้ของต่างหน้าของพี่สาวที่รักกับยูริ เพื่อใช้เป็นใบเบิกทางในการหนี หลังจากนี้มันจะกลายเป็นจี้ห้อยคอของยูริ |
![]() |
เจอกันซะที จูบกันไป คุยกันไป |
![]() |
ดูพฤติกรรมว่ายูริเสร็จเขาไปแล้วยัง โดยการจับก้น แล้วโดนตบ เลยรู้ว่ายูริยังโอเค (เวอร์เนอะ) |
![]() |
อิลเจ้าเล่ห์ ทำทีมาคุยกับคิกคูรี่เฉยๆ แต่ตั้งใจให้อุลฮีได้ยิน จะได้ทำให้ยูริไม่ได้กลับ |
![]() |
แหมๆ เมื่อไฟไหม้สะพาน อิลรีบบอกเชียวว่าฝีมืออุลฮีแน่ ร้ายจริงๆ ดูหน้าคิกคูรี่ที่อยู่ด้านหลังน่ะ 5555 |
![]() |
อยู่ต่ออีกปีน่ะจ๊ะ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น