แต่อุลฮีที่ยังแอบซ่อนอยู่ใกล้ๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหว เพราะแอบสืบข่าวจนรู้เรื่องหลักฐาน จึงได้แอบวางยานางกำนัลเพื่อควบคุมจิตใจ
ในด้านทางการทหารนอกจากทัพหลวงของไคล์และยูริแล้ว ไคล์ก็ได้รีบรวบรวมกำลังเสริมทั้งหมด เพราะประเมินแล้วว่า สงครามครั้งนี้จะเป็นศึกตัดสินครั้งสุดท้าย โดยเริ่มจากทัพขององค์ชายเทเลปินูล(องค์ชายองค์ที่2) ที่เป็นพี่ชายคนเดียวที่เหลืออยู่ และที่ยูริไม่คาดฝันคือไคล์ได้เชิญทัพขององค์ชายรัตติกาล ซึ่งขณะนี้ได้ไปปกครองเมืองเล็กๆ อยู่ และยินดีที่จะเข้าร่วมทัพกับฮิตไทต์
นางกำนัลที่ถูกอุลฮีควบคุม ได้เริ่มแอบเข้าไปรื้อค้นห้องอิลบานี่ จนเจอช่องลับ และยังได้พบสารลับที่เป็นหลักฐาน แต่ไม่ได้นำออกมาด้วย ทำเพียงแค่กลับไปรายงานอุลฮีว่าพบแล้ว และลักษณะที่เจอน่าจะเป็นสารลับของจริง เมื่อได้เรื่องดังนี้แล้ว อุลฮีจึงสั่งต่อไปว่าให้แอบนำออกมาให้ แต่หากไม่สามารถนำออกมาได้ก็ให้ทำลายทิ้งเสีย
ในการแอบลอบเข้าห้องอิลบานี่อีกครั้งนึงนั้น นางกำนังก็สามารถแอบลอบเข้ามาและแอบนำสารลับออกมาด้วยแล้ว แต่อิลบานี่กับองค์หญิงอเล็กซานดร้ากลับมาที่ห้องซะก่อน และอิลบานี่ก็ได้สังเกตุเห็นความปกติจึงมั่นใจว่านางกำนังได้เข้ามาขโมยสารลับแน่ นางกำนัลที่โดนจับได้จึงได้ทำตามที่อุลฮีสั่ง คือทำลายสารทิ้ง และแม้ว่าองค์หญิงน้อยจะพยายามกระโดดเข้ารับ แต่ก็ไม่ทันการ สารลับได้ตกกระแทกพื้นแตกซะแล้ว
อิลบานี่ที่ท่าทางไม่ร้อนรนเท่าองค์หญิงน้อย ได้ตัดสินใจชกท้องนางกำนัลทันทีเพื่อให้คายน้ำดำออกมา เมื่อนางกำนัลได้สติกลับมา อิลก็รีบสอบสวนจนแน่ใจทันทีว่าอุลฮีต้องอยู่แถวๆนี้ ซึ่งอิลก็รีบสั่งให้ทหารรีบตามหาตัวอุลฮี แล้วหันไปตอบกับนางกำนัลที่กำลังคร่ำครวญกับเศษสารที่แตกละเอียดว่า สารนั้นหาใช่ของจริงไม่ คิดหรือว่าตนเองนั้นจะเอาของสำคัญขนาดนั้นอยู่ห่างตัวได้ (พี่ท่านเจ้าเล่ห์จริงๆ)
กลับมาด้านการศึกสงคราม หน่วยสอดแนมของฮิตไทต์ ก็กลับมารายงานว่าขณะนี้ทางด้านอียิตป์เองก็พร้อมแล้ว และมีการจัดทัพมาอย่างเต็มกำลัง ซึ่งรามเสสเองก็เป็นหนึ่งในแม่ทัพเช่นกัน
ทางฮิตไทต์เองก็พร้อมแล้วเช่นกัน ซึ่งไคล์เองก็จะออกแนวหน้าด้วย พร้อมทั้งกระชากยูริมาจูบและสั่งให้รอดจากศึกกลับมา
 |
| รูปนี้เขาหล่อ |
แต่ท่ามกลางศึกสงคราม กลับมีคนอาศัยความชุลมุน มุ่งปองร้ายยูริอยู่ เขาคนนั้นคือทาฮาร์กาที่แค้นฝั่งหุ่น จนขอเข้าร่วมกองทัพ เพื่อจะตามมาแก้แค้นยูริ
 |
| อัสลันม้าแสนรู้ |
แล้วสถานการณ์ทางการศึกก็ดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น จนแผนการที่ไคล์ดำเนินการไว้ก็ได้เริ่มต้น แต่ทางอียิปต์กลับมีเพียงรามเสสเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ตัว ในขณะที่แม่ทัพคนอื่นได้แต่ย่ามใจคิดว่าตนได้เปรียบ และแม้ว่ารามเสสจะทักท้วงฟาโรห์ไปแล้ว แต่ฟาโรห์หาฟังไม่ ยังคงเดินหน้าเข้าสู่หลุมพรางของไคล์ต่อไป
ซึ่งในแผนการของไคล์นั้น คือ ล่อฟาโรห์ไปยังใจกลางศึก แล้วให้ทุกทัพเข้าปิดล้อมพร้อมกันในขณะที่ฟาโรห์อยู่ใจกลางนั้น หากจับกุมฟาโรห์ได้ ก็ไม่จำเป็นจะต้องเสียกำลังทหารจากการรบกันอีก แต่แผนการนี้มีข้อพึงระวังสำคัญคือจังหวะในการปิดล้อม จะต้องเป็นจังหวะที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งตามแผนที่ตกลงกันคือทุกทัพจะรอสัญญาณจากไคล์
รามเสสที่เป็นผู้เดียวที่รู้ทันแผน แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะไม่มีอำนาจและฟาโรห์หาเชื่อคำเตือนไม่ เมื่อรู้แน่ชัดแล้วว่าศึกนี้อียิปต์ต้องพ่ายให้กับฮิตไทต์แน่นอน ก็ตัดสินใจว่าจะไม่สนใจกองทัพที่รู้ผลแล้ว แต่ยังมีเรื่องคาใจคือ ตนเองนั้นไม่ได้ตัดสินผลแพ้ชนะกับไคล์อย่างเท่าเทียมเลยแม้แต่น้อย
แล้วรามเสสก็มุ่งหน้าไปหาไคล์โดยทันที ซึ่งไคล์เองแม้ขณะนี้กำลังจะได้ชัยชนะตามแผนการ แต่ก็ยังรู้สึกค้างคาใจเช่นเดียวกับรามเสส ด้วยที่ผ่านมาตนเองอยู่สถานะที่ได้เปรียบมาโดยตลอด แต่ด้วยเลือดนักสู้ ก็อยากจะสู้ด้วยสถานะที่เท่าเทียมกันกับรามเสส
และแม้เพียงแค่ทั้งคู่พบและสบตากัน ก็รู้ใจซึ่งกันและกัน ว่าต้องการที่จะสู้ให้รู้ผล โดยไม่คำนึงถึงสถานะ รามเสสเพียงแค่ขี่ม้ามาในบริเวณที่ไคล์อยู่ แล้วเมื่อได้สบตากับไคล์แล้ว ก็ฉีกตัวออกจากบริเวณรบ ไคล์ที่เห็นดังนั้น ไคล์ก็ตัดสินใจให้คิกคูรี่ตามรามเสสไปทันที แม้จะเป็นการละทิ้งสถานะและหน้าที่ ณ ขณะนั้นก็ตามแต่ การได้ตัดสินกับรามเสส สำคัญเหนือสิ่งใด
แล้วทั้งคู่ ก็ตัดสินใจตามที่ปรารถนา
และแม้ว่าผู้ติดตามคนสนิทของทั้งคู่จะพยายามห้ามปราม แต่กลับถูกสั่งไว้ว่าห้ามเข้ามายุ่ง
แต่ด้วยความที่ดาบของไคล์เป็นเหล็กซึ่งได้เปรียบรามเสส สุดท้ายดาบรามเสสก็หัก แต่ไคล์กลับทิ้งความได้เปรียบนี้ แล้วแลกหมัดกันต่อ
ในขณะที่ไคล์หายตัวจากทัพมาสู้กับรามเสสตัวต่อตัวอยู่นั้น ยูริที่พบว่าไคล์หายไปก็เกิดความกังวล แต่ก็ยังค้ำจุลกำลังใจของทหารที่เริ่มเสียขวัญที่แม่ทัพหายไป และยังตัดสินใจว่าจะต้องทำอย่างไรสักอย่าง จึงสั่งให้ฮาดี้ไปส่งข้อความเพื่อร่วมปรึกษากับองค์ชายเทเลปินู (องค์ชาย2) และองค์ชายรัตติการ เพื่อหารือว่าจะทำอย่างไรดีเมื่อไคล์หายตัวไป ซึ่งองค์ชายทั้งสองได้ปฏิเสธการเป็นผู้นำซึ่งจะต้องเป็นผู้สัญญาณในการปิดล้อมฟาโรห์ตามแผน พร้อมทั้งบอกว่ายูริคือผู้ที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
ด้านไคล์และรามเสส ก็แลกหมัดกันจนเครื่องประดับและเสื้อผ้าค่อยๆ หลุดและขาดทีละชิ้นจนล่อนจ้อน
ระหว่างที่ไคล์กำลังสู้กับรามเสสอย่างเมามันส์ ด้านยูรินั้นไม่มีเวลาให้คิดมาก เพราะขณะนี้ฟาโรห์กำลังถูกล้อมอยู่ใจกลาง ตามแผนการแล้ว รอแค่คนกะจังหวะแล้วให้สัญญาณปิดล้อม ซึ่งเดิมทีเป็นหน้าที่ของไคล์ ตอนนี้แม้ยูริจะไม่มั่นใจว่าตนจะสามารถทำได้หรือไม่ แต่ก็จำเป็นต้องทำ แล้วยูริก็รีบดำเนินการให้ทหารภายใต้การนำของตนนำธงสัญลักษณ์อิชทาร์ลง (แต่ละทัพจะมีธงประจำทัพ) เพื่อรอให้ยูริกะจังหวะแล้วส่งสัญญาณให้ยกธงขึ้น เพื่อเป็นสัญญาณแจ้งให้ปิดล้อม
ไคล์ที่แม้จะเมามันส์ต่อสู้อยู่ แต่เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงของธงของอิชทาร์ ไคล์ก็เสียสมาธิไปชั่ววูบ จนพลาดพลั้งโดนชกจนล้มลง
แล้วก็ถึงจังหวะที่ยูริให้สัญญาณ ยกธงขึ้น
ซึ่งทหารทุกคนและทุกทัพให้การตอบรับกับการนำของยูริ ทำให้ยูริรู้สึกปราบปลื้มยิ่ง แล้วในแง่ศึกสงครามก็เห็นผล ฟาโรห์เองที่ไม่ยอมฟังรามเสสแต่แรก ก็เพิ่งรู้ตัวว่าเสียท่าเสียแล้ว แต่ยังมีอีกหนึ่งคนที่จะยอมให้จบเพียงแค่นี้ไม่ได้ ทาฮาร์กาซึ่งรู้ตัวว่านี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะแก้แค้นยูริแล้ว
และในด้านไคล์กับรามเสส บริเวณที่สู้กันที่เคยเป็นเขตนอกสงคราม ก็มีทหารลามมา กลายเป็นพื้นที่ศึก ทำให้คิกคูรี่และคนสนิทของรามเสส ต้องรีบดึงทั้งคู่ออกมา รามเสสเป็นฝ่ายที่ยังไม่ยอมถอยจนกว่าจะรู้ผล แต่กลับเป็นไคล์ที่เริ่มตระหนักถึงสถานะและภาระหน้าที่ในฐานะของกษัตริย์และแม่ทัพของฮิตไทต์ แล้วไคล์ก็ตัดใจแล้วเรียกคิกคูรี่เพื่อกลับเข้าทัพ ทิ้งไว้เพียงรามเสสที่ได้แต่บ่นเกลียดความมีเหตุมีผลของไคล์
ยูริที่ปิดล้อมฟาโรห์ไว้ในใจกลางการปิดล้อมได้แล้ว ก็เริ่มต้นเจรจา เพื่อให้อียิตป์และฮิตไทต์ทำพันธะสัญญาว่าจะไม่มีการรุกรานใดๆ กัน แล้วในขณะที่สงครามกำลังจะจบ ทาฮาร์กาที่แอบซ่อนตัวภายใต้ศพ แล้วหาจังหวะยิงศรใส่ยูริอีกครั้ง
จากสิ่งที่ไคล์พูดกับทาฮาร์กาด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเป็นปกติ ทาฮาร์กาที่ไม่สามารถแก้แค้นยูริได้ และรู้ว่าครั้งนี้คือครั้งสุดท้ายที่จะได้พบยูริ ก็ได้แต่นึกย้อนว่าที่ตนไม่สามารถทำใจที่โดนหลอกใช้ได้ เพราะรู้ดีว่ายูริคือคนที่พิเศษ และหวังไว้ว่าสักวันหนึ่งจะมีประโยชน์กับยูริได้มากกว่านี้ แม้จะต้องสละชีวิตก็ตาม แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าตนมีประโยชน์แค่คนที่ถูกหลอกใช้เท่านั้น
เมื่อทุกอย่างจบลงด้วยดี ไคล์ก็หันมาชมยูริ พร้อมทั้งนึกถึงพัฒนาการของยูริที่แต่แรกยูริเป็นเพียงเด็กสาวที่ตนเองจะต้องปกป้อง แต่ ณ ขณะนี้ ยูริคือผู้หญิงที่คู่ควรและสามารถเคียงข้างกับตนในฐานะกษัตริย์เพื่อดูแลอาณาจักรได้
แล้วยูริก็เพิ่งสังเกตอาการบาดเจ็บของไคล์
 |
| ทำไมข้างในถึงเปลือย |
 |
| จูบแล้วเจอว่าฟันหักอีกต่างหาก |
ในขณะที่มีรูซาฟาแอบดูอยู่ด้วยสายตากึ่งอาวรณ์และโล่งใจ พร้อมทั้งยังติดตรึงในคำพูดของไคล์ที่เพิ่งพูดให้รูซาฟาฟัง
แล้วสงครามทุกอย่างก็จบลง
แต่เรื่องราวเรายังไม่จบน่ะจ๊ะ to be continue...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น