จู่ทางฮิตไทต์ก็มีโรคระบาด โดยกษัตริย์ก็ป่วย ซึ่งในระหว่างนี้ไคล์ก็ช่วยต้องดูแลราชกิจแทนเป็นหลัก (บรรดาขุนนางขอ) ทำให้ไคล์ค่อนข้างที่จะยุ่งมาก และในช่วงนี้เองที่รามเสสก็กลับเข้ามาในวงโคจร รามเสสมาเข้าเฝ้าไคล์และยูริในนามของทหารอียิปต์ที่มาประจำการที่ฮิตไทต์ พร้อมนำของกำนัลมาฝาก ตอนนี้นี่เองที่ยูริรู้จักรามเสสอย่างเป็นเรื่องเป็นราว (ก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกชื่อไว้ เพราะยูริสนใจแต่เรื่องมาห้ามศึก) เมื่อรู้ว่าชื่อรามเสสแล้วยูริก็คุ้นๆชื่อจากในวิชาประวัติศาสตร์ที่เคยเรียน แต่นึกไม่ออก (รามเสสเป็นฟาโรห์ที่มีชื่อเสียงมาก เราเสริมเอง) แล้วยูริก็ยังสงสัยอีกว่า ทำไมต้องเอาของกำนัลมาให้ ซึ่งรามเสสอธิบายเหตุผลว่า เพราะไคล์คือคนที่จะมีอำนาจคนต่อไป (แสดงให้เห็นถึงความตาถึง ของพ่อตาสองสี) พร้อมทั้งเชิญชวนยูริให้ไปดูของกำนัลสำหรับยูริ แล้วในจังหวะที่บรรดาสามสาวพี่น้องเผลอ รามเสสก็ก้มลงจูบยูริ (พ่อคุณเขาออกตัวแรงและชัดเจน) ซึ่งยูริก็โมโหกับการจาบจ้วง แต่ยังไม่คิดว่ารามเสสชอบตัวเอง
แล้วไม่กี่วันหลังจากกษัตริย์ป่วย ก็สิ้นพระชนม์ทันที ทำให้รัชทายาท (องค์ชายที่ 1) ขึ้นครองราชย์แทน แม้ตอนแรกก่อนเฉลิงราชย์จะป๊อดเอาเรื่อง แต่ไคล์ก็เป็นคนมาให้กำลังใจ พร้อมให้สัญญาว่าจะช่วยด้วย
เมื่อมีการผลัดบัลลังค์ ตำแหน่งรัชทายาทก็ว่างลง จึงเกิดภาวะการแก่งแย่งกันระหว่างฝ่ายไคล์กับชนนีนาเกีย ที่แม้จะไม่ได้เป็นราชินีแล้ว แต่ยังอยู่ในตำแหน่งทาวานาอันน่า ซึ่งเป็นตำแหน่งของผู้หญิงที่มีอำนาจสูงสุดอยู่ดี
โดยอย่างเป็นทางการแล้ว ไคล์และจูดาคือผู้เข้าชิงตำแหน่งรัชทายาท (จูดาไม่เต็มใจ) และจะให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าใครจะได้เป็น (เดี๋ยวจะกล่าวถึง ว่าจะตัดสินกันอย่างไร) ดังนั้นสิ่งที่นาเกียจะทำคือการพยายามมีความนิยมเหนือไคล์ให้ได้ นาเกียกับอุลฮีจึงเริ่มวางแผนกันอีกครั้ง
ส่วนทางไคล์ก็ยังปฏิบัติราชกิจเหมือนเดิม จนมีคนเข้ามารายงานความเคลื่อนไหวของนาเกีย แต่ไคล์ก็หาใส่ใจไม่ ปล่อยไป และยังกำชับว่าห้ามให้ยูริรู้ เพราะถ้ายูริรู้แล้วคงไม่ยอมอยู่เฉย และในระหว่างที่คณะของไคล์เดินทางกลับเข้าวัง ก็พบว่ายูริกำลังโวยวายไล่รามเสสอยู่ (ไคล์เพิ่งเอะใจว่ามันมาทำไมบ่อยๆ) เมื่อยูริเห็นว่าไคล์กลับมาแล้ว ก็หันมาถามถึงข่าวคราวของนาเกีย ไคล์ที่ไม่อยากให้ยูริรู้ ก็ทำทีเป็นหึงหวงเรื่องที่ยูริยังใส่จี้ขององค์ชายรัตติกาล แล้วแถมยังมีรามเสสมาหาอีก แต่ยูริไม่หลงกล ซึ่งไคล์ก็ยังไม่ยอมบอกอยู่ดี ยูริเลยหาวิธี โดยขอความร่วมมือจากสามสาวพี่น้องให้ไปหลอกล่อคิกคูรี่มา แล้วยูริก็ขู่ว่าถ้าไม่ยอมบอกจะจูบ คิกคูรี่เลยจำต้องยอมเล่าว่า ชนนีนาเกียได้สร้างบ้านพักผ่อนที่ดูแลคนที่ป่วยเป็นโรคระบาดอยู่ เหมือนที่ยูริทำตอนอยู่ไมเทนนี่ ซึ่งยูริฟังแล้วก็เฉยๆ อารมณ์เขาจะขโมยผลงานก็เรื่องของเขา แต่ในระหว่างที่ยูริกำลังนั่งสงสัยอยู่คนเดียวว่าเรื่องแค่นี้ทำไมไคล์ต้องปิดด้วย อยู่ๆ รามเสสก็ปีนขึ้นมาหา พร้อมทั้งเล่าว่ายังมีอีกเรื่องที่ยูริยังไม่รู้ นั่นก็คือตอนนี้มีอิชทาร์อีกคนอยู่อีกเมืองนึง เมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว ยูริก็ยอมไม่ได้ที่จะมีอิชทาร์ตัวปลอมมาทำให้ไคล์เสียชื่อได้ จึงได้ออกเดินทางไปที่เมืองที่ว่าคนเดียวโดยทันที ซึ่งก็สมใจรามเสสเขาละ เพราะเขารอดูอยู่ว่ายูริจะจัดการยังไง
ระหว่างเดินทาง ยูริได้เห็นคนที่ป๋วยเป็นโรคระบาดตามรายทางจำนวนมาก ก็ได้รู้สึกถึงความน่ากลัวของโรคระบาดที่ว่า และเมื่อยูริเดินทางมาถึงเมืองก็สอดส่ายหาอิชทาร์ตัวปลอม แล้วก็ได้ไปเห็นว่ากำลังมีขบวนเกี้ยวของอิชทาร์ตัวปลอมผ่านมา ก็เลยเข้าไปโวยวายและยังบอกว่าตัวเองคืออิชทาร์ตัวจริง แต่ไม่มีใครเชื่อ (รวมทั้งเจ้าเมืองด้วย) เพราะคิดว่าอิชทาร์ที่เป็นชายาไคล์จะต้องสวย แต่ยูริเป็นเด็กปอนๆ อิชทาร์ตัวปลอมเลยสั่งให้ส่งยูริไปที่หุบเขา ซึ่งเป็นที่ๆ กักกันผู้ป่วยโรคระบาด (แนวคิดอุลฮี ผู้อยู่เบื้องหลัง) เมื่อไปถึงยูริก็ได้เจอเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเขาคือลูกชายเจ้าเมืองที่มาช่วยดูแลคนป่วย เมื่อยูริรู้ว่าที่นี่คือที่กักกันและดูแลคนป่วย เลยอ้าว แล้วบ้านพักของราชินีที่ว่าดูแลคนป่วยล่ะ ลูกเจ้าเมืองเฉลยว่านั่นเฉพาะสำหรับคนมีเงิน และส่วนตัวเองที่มาอยู่ที่นี่แล้วไม่ป่วย เพราะเคยเป็นตอนเด็กแล้วหาย ซึ่งโรคนี้ถ้าคนเคยเป็นมาก่อนก็จะไม่เป็นอีก
แรกเริ่มเดิมทีลูกชายเจ้าเมืองจะช่วยให้ยูริออกจากหุบเขา เพราะไม่อย่างนั้นจะต้องป่วยตายแน่ๆ (เจ้าเมืองโง่งมเชื่อฟังอิชทาร์ตัวปลอม แต่ลูกชายเป็นคนดี มาช่วยดูแลคนป่วย) แต่ยูริกลับตัดสินใจจะอยู่ช่วย อยู่ไปหลายวันเข้ายูริก็ยังไม่ป่วย (ผิดธรรมดาของโรคนี้มาก) ก็เลยเริ่มมีข่าวลือเรื่องยูริ กลายเป็นสาวน้อยมหัศจรรย์ไป จนมีหมอเข้ามาหายูริเพราะสนใจความที่ไม่ยอมเป็นโรค เมื่อมีหมอเข้าหา ยูริเลยรีบลากไปดูคนป่วยที่หุบเขา แล้วเมื่อมีหมอมาวิเคราะห์สถานการณ์ให้ ทำให้ยูริรู้ตัวว่าที่ตัวเองไม่ป่วย เพราะมันเป็นโรคที่ยูริอาจจะเคยฉีดวัคซีนมาแล้วตอนเด็ก เพราะมันเป็นโรคที่ถ้าเคยเป็นแล้วจะมีภูมินั่นเอง แต่ส่วนใหญ่จะตายกันเพราะร่างกายอ่อนแอซะก่อน และที่หุบเขานี้ก็ขาดทั้งอาหารและยา เมื่อรู้ดังนั้นยูริเลยตัดสินใจว่าจะบุกเข้าไปหาเจ้าเมืองเพื่อขอแบ่งอาหารและยา ในระหว่างเดินทางก็เจอขบวนของอิชทาร์ปลอมอีก ซึ่งเป็นจังหวะที่มีแม่พาลูกอ่อนที่ป่วย มาให้อิชทาร์ปลอมอวยพรให้ แต่อิชทาร์ปลอมรังเกียจ จึงปัดเด็กตก และในสถานการณ์ที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเพราะกลัวติดโรค ยูริกลับเข้าไปอุ้มมาปลอบ พร้อมทั้งพูดจาสั่งสอน และขออาหารและยา ทำให้อิชทาร์ปลอมเสียหน้า คราวนี้เลยสั่งให้เอาตัวยูริไปขังคุก
ทางชาวบ้านเมื่อรู้ข่าวว่าสาวน้อยมหัศจรรย์ที่ไปขออาหารและยากลับโดนขังคุก ก็เริ่มรวมตัวกันเพื่อจะบุกเข้าไปช่วยสาวน้อยมหัศจรรย์ และแล้วอยู่ที่เมืองนี้ก็ต้องรับรองไคล์ที่มาตามอิชทาร์ (ก่อนหน้านี้มาไม่ได้ เพราะติดราชกิจ) อิชทาร์ปลอมก็เริ่มรู้ชะตากรรม แต่อุลฮีกลับยังยุยงว่า ให้ใช้ความสวยที่มั่นใจนักหนานั่นทำให้ไคล์ติดใจจริงๆ ซะ อิชทาร์ปลอมเลยต้องทำใจกล้าออกมาเผชิญหน้ากับไคล์ โผเข้าหาแล้วเบียดหน้าอกเข้าไป หวังให้ไคล์ถูกใจ แต่ไคล์กลับไม่แยแสแล้วบอกออกมาทันทีว่านี่ไม่ใช่อิชทาร์ (เจ้าเมืองหน้าซีด) พร้อมถามหาว่าอิชทาร์ตัวจริงอยู่ไหน เจ้าเมืองก็ยิ่งตกใจว่าถ้านี่คืออิชทาร์ปลอม แล้วอิชทาร์จริงมานี่ด้วยหรอ ไคล์เลยเปลี่ยนคำถาม ถามว่าตอนนี้มีความวุ่นวายเกิดขึ้นที่ไหนบ้างหรือเปล่า ซึ่งทันใดนั้นก็มีทหารเข้ามารายงานเรื่องชาวบ้านรวมตัวกันจะบุกคุกเพื่อช่วยสาวน้อยมหัศจรรย์ทันที นั่นละไคล์รู้เลย ยูริอยู่นั่น
ทางด้านยูริ ระหว่างที่อยู่ในคุกคนเดียว ก็ได้แต่รู้สึกถึงความไม่เอาไหนของตัวเอง ที่พออยู่คนเดียวก็ทำอะไรไม่ได้ แล้วบรรดาชาวบ้านก็เข้ามาช่วยยูริได้สำเร็จ แล้วเหมือนจะแห่กันกลับไปที่หุบเขา ในขณะที่กำลังฉลองที่ช่วยสาวน้อยมหัศจรรย์ออกมาได้ ไคล์ก็โผล่มา บรรดาชาวบ้านก็ก้มหัวคำนับ คนที่ใกล้ยูริที่สุดก็จับยูริคำนับด้วย แล้วไคล์ก็บอกว่ามาตามหาอิชทาร์ ชาวบ้านก็งง เพราะอิชทาร์น่าจะอยู่ในวัง ไคล์เลยย้อนถามว่า ชาวบ้านรู้จักรูปลักษณ์ของอิชทาร์อย่างไร ชาวบ้านเลยค่อยๆ ทวน แล้วก็ค่อยๆ รู้ตัวว่าเป็นสาวน้อยมหัศจรรย์นี่เอง แล้วไคล์ก็เจอตัวยูริ แต่เมื่อยูริเจอไคล์กลับพร่ำบอกว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติ (จากที่หล่อนหมกมุ่นเองตอนอยู่ในคุก) ชาวบ้านที่เป็นพยานอยู่ก็บอกว่ารักและเทิดทูนยูริจากคุณงามความดีที่ยูริได้ทำ ยูริจึงค่อยสบายใจได้
กลับมาทางอิชทาร์ปลอม คัชชุที่ตามมากับไคล์ก็ข่มขู่ถึงโทษและความผิดของอิชทาร์ปลอม (อุลฮีหนีไปนานล่ะ) ยูริสงสัยและเข้าไปถามเจ้าตัวถึงเหตุผล จึงรู้ว่าอิชทาร์ปลอม ชื่อจริงคืออุลซุล่า เดิมทีเป็นชาวบ้านที่ฐานะยากจนและครอบครัวตายด้วยโรคระบาดหมด แล้วอุลฮีมาหลอกล่อ ส่วนตัวเองก็อยากจะฝันถึงชีวิตที่สุขสบายบ้าง เมื่อยูริได้ฟังดังนั้น เลยขอให้อุลซุร่ามาเป็นนางกำนัล ซึ่งไคล์ก็โอเค
เมื่อจบเรื่องทางนี้ คณะไคล์ก็รีบเดินทางกลับฮัตตูซ่า เพราะอยู่ระหว่างการคัดเลือกรัชทายาท เมื่อกลับมาถึงอิลก็รายงานสถานการณ์ว่าตอนนี้สูสีกันอยู่ เพราะใช้วิธีการลงคะแนน ดังนั้นจึงเหลือการตัดสินทางสุดท้าย คือให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน โดยจะตัดสินจะระดับเสียงของประชาชนที่โห่ร้องแสดงคำอวยพร แรกเริ่มเดินทีนาเกียเดินออกมาก่อน ก็ได้รับเสียงในระดับที่ยูริใจแกว่ง แต่พอไคล์เดินออกมาระดับเสียงยิ่งถล่มทลายยิ่งกว่า สรุปผลออกมาชัดเจน คือไคล์ได้เป็นรัชทายาท ยิ่งทำให้นาเกียแค้นจัดเข้าไปอีกจ้า
![]() |
รามเสสเปิดเผยมาก มาถึงก็เผยธาตุแท้กับยูริเลย |
![]() |
แม้จะดูเอาการเอางาน และไม่แสดงออกถึงความอ่อนแอ แต่ก็เสียใจมากกับการตายของเสด็จพ่อ |
![]() |
ไคล์ให้กำลังใจพี่ชาย กษัตริย์องค์ใหม่ พร้อมสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้าง |
![]() |
พ่อคิกคูรี่โดนรังแก (อีกแล้ว555) โดนหลอกมาถามความลับ |
![]() |
ถึงขั้นปีนเข้าหาล่ะ เพื่อมาบอกข่าวกับยูริ แล้วจะได้รอดูว่ายูริจะทำยังไง |
![]() |
อิชทาร์ตัวปลอม (อุลซุล่า) หล่อนสวยค่ะ |
![]() |
ใจกล้าต่อ หวังว่าจะทำให้ไคล์หลงได้ เบียดมันเข้าไป หน้าอกน่ะ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น