รามเสสที่แม้จะโดนจับขึงแล้วอดข้าวอดน้ำ แต่เมื่อเห็นควันไฟ ก็คาดการณ์สถานการณ์ได้ทันที เมื่อเนเฟอร์ติตี้กลับมาถึงวัง รามเสสก็ขอร้องให้ปล่อยตัวเองได้แล้ว จะได้ไปปราบทัพกบฏ แต่เนเฟอร์ติตี้ก็ยังคงหาสนใจไม่ กลับเลือกที่จะพารามเสสหลบหนีไปยังวิหารในปกครองของตนเอง
ด้านทัพกบฏที่เมื่อบุกเข้ามาภายในเมืองหลวงแล้วนั้น บรรดาทหารกับนางในล้วนแตกตื่น ทหารเองก็เตรียมตัวจะไปประจำการ แต่กลับแอบโดนก่อกวนโดยชาวบ้านที่อยู่ภายในเมืองหลวงนั่นเอง แสดงให้เห็นว่าชาวบ้านธรรมดาทั่วไป ก็เอาใจช่วยทัพกบฏเช่นกัน
ยูริที่เมื่อบุกเข้าเมืองหลวงมาแล้ว ก็ยังคงไม่หายสงสัยว่าตนทำถึงขนาดนี้แล้ว เหตุใดเนเฟอร์ติตี้จึงยังไม่ปล่อยตัวรามเสสเสียที แล้วอิลบานีก็คิดคำนึงพักหนึ่ง แล้วทำท่าตกใจ พร้อมบอกกับยูริว่า บางทีตนอาจจะคาดการณ์ผิดไป หากเนเฟอร์ติตี้ไม่ได้สนใจอียิปต์เลยเล่า กับความเสียหายพวกนี้เป็นไปได้ว่าเนเฟอร์ติตี้อาจจะไม่สนใจเลย แล้วหากเป็นเช่นนี้หมายความว่า อย่างไรเสียนางคงต้องการจำกัดรามเสสทิ้งให้ได้อย่างแน่นอน
เมื่อได้ยินอิลยืนยันความเป็นไปได้ที่รามเสสอาจจะถูกฆ่าในเร็วๆ นี้ ยูริจึงรีบบุกไปที่วังของเนเฟอร์ติตี้ เมื่อไปถึงก็พบว่ามีเพียงบรรดาข้ารับใช้ที่ตื่นกลัวพากันตระหนกและวิ่งหนี แต่กลับไปพบเนเฟอร์ติตี้และรามเสสเลย และจากการค้นหา สุดท้ายก็พบบริเวณที่รามเสสถูกขึงไว้ แต่รามเสสไม่อยู่แล้ว เหลือเพียงเชือกที่ถูกตัดและมีรอยเลือด ซึ่งเมื่อตรวจดูแล้วพบว่าเลือดยังไม่แข็งตัว แปลว่ารามเสสน่าจะถูกพาตัวไปไม่นาน ต้องรีบหาตัวให้เจอก่อนจะถูกฆ่า
ภายในวิหาร รามเสสที่โดนพาตัวมาก็หาเรื่องสนทนากับเนเฟอร์ติตี้ ไม่คิดว่าหล่อนจะไม่แยแสความย่อยยับของอียิปต์เช่นนี้ นางจึงสวนกลับด้วยอารมณ์ว่า เหตุใดต้องสนใจอียิปต์ หล่อนมีทุกวันนี้ได้เพราะตัวหล่อนเอง อียิปต์ไม่เคยช่วยเหลืออะไรนางเลย แล้วเพื่อการนี้ หากนางจะยังคงมีความมั่นคงในอำนาจของนาง นางจะต้องกำจัดรามเสสซะ ว่าแล้วก็กระชากผมรามเสสขึ้นมาเตรียมเชือดคอ
แล้วขณะที่กำลังเงื้อมีดเตรียมเชือด กลับมีคนมาขัดขวางไว้ กลุ่มของยูรินั่นเองที่อาศัยความชุลมุนตามมาถึงนี่ โดยขณะนี้ยูริเองไม่ได้ปิดบังหน้าตาไว้ เนเฟอร์ติตี้ที่เห็นหน้ายูริก็ค่อยๆ นึกออกว่าเป็นคู่หมั้นของรามเสส เท่ากับว่ายูริเปิดเผยตัวเองว่าคู่หมั้นของรามเสสคือผู้นำทัพกบฏ
แต่แม้กระนั้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะห้ามเนเฟอร์ติตี้ที่วันนี้จะต้องเอาชีวิตรามเสสให้ได้ นางพุ่งเข้าไปเตรียมแทงรามเสส ยูริที่เห็นท่าไม่ดีและคงจะเข้าไปช่วยไม่ทันจึงได้ตัดสินใจดึงจี้ห้องคอของตัวเอง ที่เคยได้จากองค์ชายรัตติกาล อนุชาของเนเฟอร์ติตี้ ขว้างเข้าใส่เนเฟอร์ติตี้
แม้เนเฟอร์ติตี้จะรับจี้ไว้ได้ แต่กลับจำไม่ได้ จนยูริต้องบอกว่าจี้นี้คือต่างหูที่เนเฟอร์ติตี้ได้เคยให้ไว้กับน้องชายที่รักไว้เป็นของแทนใจ
เมื่อยูริบอกดังนั้น เนเฟอร์ติตี้ก็จำได้ พร้อมกับนึงถึงอดีตสมัยครั้งอยู่ไมเทนนี่ และตนเองที่ตัดสินใจยอมเสียสละแต่งมาที่อียิปต์เพื่อไมเทนนี่ อีกทั้งนึกถึงน้องชายที่เศร้าโศกเสียใจกับการต้องจากกัน
![]() |
พี่น้องท้องชนกันจริงๆ ใช่ม่ะ ? |
![]() |
บาดแผลบนหน้าองค์ชาย เกิดจากไปโวยวายกับเสด็จพ่อจนโดนลงโทษ |
เมื่อสถานการณ์มาถึงขั้นนี้ ยูริจึงตัดสินใจเปิดเผยสถานะที่แท้จริง ว่าตนเองคือยูริ อิชทาร์ สนมในเมอร์ซิลิสที่สอง กษัตริย์ของฮิตไทต์ จากนี้ก็เป็นการสนทนาของผู้หญิงของกษิตริย์ ยูริที่ขอให้ปล่อยตัวรามเสสและรับฟังข้อเรียกร้องของชาวบ้าน กลับถูกเนเฟอร์ติตี้ตอบกลับว่านางคือราชินีของอียิปต์คนที่มีอำนาจสูงสุด ไม่มีใครมาสั่งนางได้ เมื่อยูริได้ยินดังนั้นก็โต้ตอบว่า ท่ามกลางอำนาจมากมายท่านมีความสุขเหมือนตอนอยู่ไมเทนนี่กับน้องชายหรือ แต่สำหรับเนเฟอร์ติตี้แล้วยูริเป็นเพียงเด็กน้อยที่อยู่ท่ามกลางความรักและการปกป้องของไคล์ เนเฟอร์ติตี้จึงตอบกลับด้วยอารมณ์ว่าคนอย่างยูริหรือจะมาเข้าใจ ตนเองนั้นต้องอยู่ท่ามกลางการแก่งแย่งชิงดี ไม่เคยได้รับความรักและการปกป้อง จนมีทุกวันนี้ได้เพราะตัวเองทั้งนั้น ความคิดที่สวยงามแบบที่ยูริมีและตัวเองเคยมี ตอนนี้นางไม่ต้องการ พร้อมทั้งเขวี้ยงอดีตต่างหูที่เป็นความทรงจำของตนทิ้ง จนหินแตก
ยูริที่เห็นดังนั้น เพียงแต่ตอบกลับไปนิ่งๆ ว่า ของชิ้นนี้ตนได้รับมาจากองค์ชายมัตตี้วาซ่า (องค์ชายรัตติกาล) และตนได้คืนให้กับเนเฟอร์ติตี้แล้ว และนางจะทำอย่างไรก็ไม่ใช่ธุระของตนเองแล้ว
ระหว่างที่กำลังคุยกันอยู่นี้ กองหนุนของยูริก็มาถึงพอดี เนเฟอร์ติตี้จึงพลาดโอกาสจัดการกับรามเสส และยูริสามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างไว้ได้ แล้วได้สั่งให้คุมตัวเนเฟอร์ติตี้ไว้ พร้อมเข้าไปดูอาการของรามเสสที่นอนหมดแรงเพราะอดข้าวอดน้ำมาหลายวัน
ยูริที่เห็นว่าอาการรามเสสไม่ดี จึงตัดสินป้อนน้ำด้วยปาก แต่แล้วเมื่ออาการรามเสสดีขึ้น กลับลีลาขอให้จูบอีก ยูริจึงรีบโวยวายพร้อมทั้งสบายใจว่ารามเสสเจ้าเล่ห์ได้เยี่ยงนี้ แปลว่าไม่เป็นอะไรมาก
เมื่อโล่งอกกันได้หมดแล้ว ก่อนโดนพาตัวออกไปเนเฟอร์ติตี้ก็หันมาทิ้งท้ายว่าจะรอดูว่ายูริจะสามารถปกครองเมืองให้เป็นไปตามอุดมคติได้อย่างไร ยูริที่ฟังมานานก็หันไปตอบว่าที่เนเฟอร์ติตี้พูดมาก็ถูกต้องว่าตัวเองนั้นไม่เคยเจอความลำบากอย่างที่เนเฟอร์ติตี้เจอ แต่ตัวเองก็เป็นคนที่ต้องจากครอบครัวและบ้านเกิดเหมือนกัน แต่ดังนั้นแล้วยูริก็ต้องขอขอบคุณเนเฟอร์ติตี้ที่เป็นตัวอย่างให้ตัวเอง ที่หากเมื่อตัวเองมีอำนาจเช่นเดียวกัน ตัวยูริเองจะไม่เลือกใช้อำนาจแบบที่เนเฟอร์ติตี้ทำ
เนเฟอร์ติตี้ที่ได้ฟังคำพูดของยูริก็ได้แต่อึ้งไป และมีสติ แล้วก็หันไปมองเศษของอดีตต่างหูที่เป็นความทรงจำ แล้วบทสรุปของเนเฟอร์ติตี้คือการโดนกระชากลงจากอำนาจ และแม้กระนั้น ก็ยังให้ศิลปินมาปั้นรูปเหมือนของนางให้เสร็จ โดยใช้หินจากเศษต่างหูเป็นนัตน์ตาข้างหนึ่ง และอีกข้างหนึ่งปล่อยทิ้งไว้
![]() |
ของจริงจากประวัติศาสตร์จ้า |
แต่เมื่อยูริซึ่งเป็นผู้นำทัพกบฏหนีไป แล้วบรรดาชาวบ้านที่มารวมตัวกันเป็นทัพกบฎแล้วบุกเข้าเมืองหลวงมาตามคำสั่งของยูริล่ะ เท่ากับว่าถูกยูริทอดทิ้งโดยทันที แล้วรามเสสผู้ซึ่งเป็นอิสระแล้วและกำลังนำทัพมาปราบปรามด้วยแล้ว ยิ่งเท่ากับว่าทุกคนถูกยูริหลอกมาใช้ประโยชน์แล้วก็ทิ้งไป ปล่อยให้ต้องถูกกองทัพกวาดล้างไปโดยปริยาย ซึ่งคนที่รับไม่ได้กับเรื่องนี้ที่สุดคือ ทาฮาร์กา ผู้ซึ่งติดตามและเทิดทูนยูริยิ่ง
ทาฮาร์กาที่ผิดหวังและเคียดแค้นกับการถูกหลอกใช้ ได้หลบหนีและติดตามหายูริเพื่อแก้แค้นจนมาถึงบริเวณท่าเรือที่ยูริใช้ในการหลบหนีกลับฮิตไทต์ แต่ก็ถูกคณะของยูริเห็นซะก่อน และแม้ยูริจะรู้สึกผิด แต่ก็เชื่อว่ารามเสสจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคนได้ กระนั้นยิ่งเห็นทาฮาร์กาตามมาก็ยังรู้สึกกังวลอยู่ แต่อิลขอให้ลืมเรื่องที่นี่ซะให้สนใจแค่เรื่องกลับไปหาไคล์ก็พอ ดังนั้นแล้วพวกสามพี่น้องและอิลจึงปลอมตัวเป็นยูริโดยการคลุมผ้าหลอก เพื่อล่อทาฮาร์กาไว้
เมื่อทาฮาร์กาพบว่าที่ตนตามมาไม่ใช่ยูริ อิลบานี่จึงเริ่มสั่งสอนทาฮาร์กาว่า เข้าใจในความรู้สึกเคียดแค้นของทาฮาร์กาและไม่ว่าด้วยที่ทาฮาร์กาจะรู้สึกเช่นนี้ แต่ต้องคิดดูให้ดีว่าเรื่องทั้งหมดที่พวกทาฮาร์กามาได้ถึงขนาดนี้ ต้องการอะไรกันแน่ และทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นเพราะยูริทั้งหมดด้วย ดังนั้นหากต้องการอะไรก็ต้องไขว่คว้าด้วยตัวเอง จังหวะนั้นเอง รามเสสที่ได้ข่าวว่ามีคนแอบตามยูริมา จึงรีบตามมาช่วย เมื่อรามเสสและคนติดตามมาถึง พวกอิลบานี่จึงอาศัยจังหวะนี้หลบหนี ส่วนพวกทาฮาร์กาก็ถูกควบคุมตัวไว้
ทาฮาร์กาที่เพิ่งถูกอิลบานี่สั่งสอนเมื่อสักครู่ เมื่อได้เจอกับรามเสส ก็รวบรวมความกล้าร้องเรียน ร้องทุกข์ เรื่องความเป็นอยู่ที่ยากลำบากของชาวบ้าน รามเสสที่แม้จะเริ่มต้นด้วยการกำหราบก่อน แต่ก็กลับกล่าวว่าข้อร้องเรียนทั้งหมดนั้นตนจะรับฟังเอง แต่ต้องหลังจากลงโทษแล้ว
ทาฮาร์กาที่แม้จะเข้าใจสถานการณ์ ณ ตอนนี้ดี ว่าตนเองนั้นไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้แล้ว แต่แม้กระนั้นในด้านจิตใจก็ยังคงไม่คลายจากความผิดหวังที่โดนหลอกใช้ เพราะตลอดระยะเวลาที่ต่อสู้ภายใต้การนำของยูรินั้น คิดอยู่เสมอว่าพร้อมที่จะตายได้เสมอ หากเพื่อยูริแล้ว (คล้ายรูซาฟาภาคอียิปต์ แต่รูซาฟาน่าจะเป็นหมาผู้ซื่อสัตย์กว่าอีกระดับ)
to be continue...
ทุกอย่างทางอียิปต์จบ และยูริกำลังกลับฮิตไทต์ค่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น