ทางไคล์และยูริบรรยากาศก็ยังไม่ดีขึ้น ไคล์เป็นกษัตริย์หนุ่มที่ยังโสด(มเหสี) รูปงามและปรีชาสามารถ จึงมีผู้หญิงมากมายติดต่อเข้ามาเพื่อขอถวายตัว อีกทั้งยังถูกบรรดาขุนนางเร่งรัดกลายๆ ให้รีบหามเหสีซะที ซึ่งไคล์ก็ทำเมินมาโดยตลอด ด้านยูริและคณะทั้งหลายก็ต้องตามไคล์ย้ายวังด้วย โดยผู้ที่แนะนำสถานที่ภายในวังหลวงได้บอกให้ยูริเลือกห้องได้ตามใจชอบ ยกเว้นก็แต่ห้องใหญ่ห้องหนึ่งเท่านั้น เพราะเป็นห้องสำหรับราชินี (แสลงใจนางและไคล์ที่ยังกระอักกระอ่วนกันอยู่) เมื่อได้ยินเรื่องการจัดเตรียมห้อง ฮาดี้ก็รีบพูดขึ้นมาทันทีว่าปกติแล้วยูริกับไคล์นอนห้องเดียวกันน่ะ แต่ขุนนางก็บอกว่าเป็นกฏของวังหลวงว่าสนมกับกษัตริย์ไม่ควรอยู่ห้องเดียวกัน ซึ่งแม้ฮาดี้จะโวยวาย แต่ยูริกลับปรามไว้
แล้วคืนนั้นซึ่งเป็นคืนแรกที่ไคล์แยกห้องกับยูริ (ในสถานการณ์ที่ยังปั้นปึ่งกัน) ก็นั่งจิบไวน์ชมจันทร์ โดยมีคิกคูรี่เป็นคนรินไวน์ แต่แล้วคิกคูรี่ก็เผลอพูดเรื่องดินฟ้าอากาศฤดูกาล ไคล์ที่นั่งเหงาและกึ่มไวน์ก็คิดไกลไปถึงว่าอีกเดี๋ยวก็ถึงฤดูกาลที่ต้องส่งยูริกลับ และเมื่อเห็นว่าดึกมากแล้วจึงไล่ให้คิกคูรี่ไปนอน ส่วนตัวเองนั้นเมื่อดึกเข้า ก็กลับเข้าไปหายูริแล้วพยายามปล้ำ (อีกแล้ว ชะตาหล่อนนี่มัน)
ยูรินั้นเมื่อกำลังจะโดนปล้ำ แม้จะเป็นไคล์ แต่ก็ดิ้นรนสุดชีวิต พร้อมทั้งตะโกนขอความช่วยเหลือลั่นวัง ซึ่งทั้งวังก็ได้ยินกันหมด แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย ทางไคล์เองตอนนี้ก็ใช้ความเอาแต่ใจตัวเองในฐานะกษัตริย์เต็มที่ บอกว่าร้องไปก็ไม่มีใครมาช่วย เพราะตอนนี้ตัวเองเป็นกษัตริย์ต้องการอะไรก็ต้องไป ทีนี้ยูริเลยเปลี่ยนใหม่ เป็นร้องระบุชื่อเรียกฮาดี้ลั่น เมื่อฮาดี้ได้ยินดังนั้น จึงตัดสินใจเข้าไปช่วยยูริ
![]() |
ฮาดี้ใจกล้า เข้าไปช่วยสนมที่กำลังโดนกษัตริย์ปล้ำ |
แต่ความสงบของเรื่องนี้ก็มีได้ไม่นาน เมื่อจู่ก็มีเมืองๆ หนึ่งถูกโจมตี โดยมีอุลฮี (ท่านรอดมาได้) ชักศึกเข้าบ้าน
เมื่อสามสาวพี่น้องเห็นยูริร่าเริงกับการจะกลับญี่ปุ่นก็พยายามพูดชักชวนให้ยูริอยู่ ซึ่งก็แสลงความรู้สึกยูริเหลือเกิน จังหวะนั้นก็มีบรรดานางกำนัลต่างๆ มากมายเข้ามารุมประจบยูริ สามสาวพี่น้องเห็นดังนั้นก็ใจเสีย นึกว่ายูริโกรธตัวเองแล้วนั่น
แต่สถานการณ์ยังพีคไม่พอ ยังมีม้าเร็วรีบมาส่งข่าวอีกว่าอียิปต์บุก สรุปข้าศึกสองด้าน แล้วมันมาพร้อมกันได้ยังไง ไคล์พ่อชาญฉลาดของเรา รู้ทันทีว่าต้องมีสปาย จึงสั่งให้บรรดาคนสนิทระวังตัว และสอดส่องหาสปายให้เจอ เมื่อสามสาวพี้น้องได้ยิน ก็ระแวงนางกำนัลกลุ่มที่เข้ามาตีสนิทยูริทันที พร้อมทั้งเป็นห่วงยูริด้วย แต่พอจะเข้าไปรับใช้ยูริ ยูริกลับให้ความสนิทสนมนางกำนัลกลุ่มใหม่นี้
แล้วในจังหวะที่ยูริหลับนั้น สปายก็เข้ามาค้นก้อนดินเผา (ประหนึ่งกระดาษ) ก็พวกฮาดี้ที่ระแวดระวังให้ยูริอยู่แล้วก็เข้ามาจับสปายที่ลอบเข้ามาได้ทันที แล้วบรรดานางกำนัลใหม่ก็ทำทีเป็นกลัวแล้วรีบหนี แต่ยูริสั่งให้พวกฮาดี้จับไว้ทันที เพราะทั้งหมดนั่นคือสปาย จากนั้นยูริก็เฉลยว่าทำทีเป็นให้พวกสปายเข้าใกล้ เพราะพวกนี้อยู่ก็มาตีสนิท น่าสงสัยเกินไป เมื่อรู้ดังนี้ พวกฮาดี้ก็ใจชื้นขึ้น ว่าไม่ได้โดนยูริโกรธ
จากการกระทำของยูริในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่ายูริเต็มที่กับการช่วยไคล์ พร้อมกล่าวเป็นวาจากับไคล์ว่า ช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ก่อนกลับญี่ปุ่น จะทำหน้าที่อิชทาร์อย่างเต็มที่
จากการจับสปายได้ในครั้งนี้ แต่ในทันทีพวกสปายก็ถูกวางยา แล้วเมื่อสืบที่มาที่ไปก็พบว่าคนเหล่านี้เดิมเป็นคนตำหนักของนาเกีย (ไม่พ้นนางค่ะ) ช๊อคค่ะ ทุกคนไม่คิดว่านาเกียจะถึงขนาดเป็นสปายได้ เมื่อรู้ดังนี้ ยูริเลยรีบที่จะไปดูลาดเลาของวังนาเกีย และเมื่อไปถึงก็พบคนน่าสงสัยกำลังควบม้าออกมาวังนาเกีย จนยูริจับได้ว่าเป็นคนอียิปต์ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรนายนั่นก็กัดลิ้นตายซะก่อน
แม้ตอนนี้จะรู้แล้วว่าใครเป็นสปาย ที่ทำให้ฮิตไทต์กำลังเผชิญศึกสองด้าน แต่ก็ยังทำอะไรทันทีไม่ได้ เพราะยังไม่มีหลักฐาน อีกทั้งนาเกียยังพิษสงรอบตัว แต่อย่างไรก็ตาม กับสถานการณ์ตอนนี้ไคล์ต้องต้องจัดศึก 2 ทัพ เพื่อจัดการกับศึกษา 2 ด้าน โดยไคล์จะต้องไปนำทัพสู้อียิปต์ แต่อีกด้านนั้นเล่า ใครจะสามารถเป็นผู้บัญชาการให้ได้ เมื่อได้ยินดังนั้น ยูริจึงคิดอาสา ด้วยอยากเป็นประโยชน์ให้ถึงที่สุด ไคล์เมื่อเห็นความตั้งใจของยูริ จึงแต่งตั้งให้ยูรินำทัพไป พร้อมสั่งการให้กำลังหลักไปกับทางยูริซะเกือบหมด (เหลืออยู่กับแค่ตัวเองแค่คิกคูรี่) โดยในวันเดินทาง ไคล์และยูริก็ได้ร่ำรา พร้อมให้คำมั่นว่า แม้จะเสร็จศึกไม่ทันฤกษ์ส่งยูริกลับ แต่ไคล์จะจัดเตรียมทุกอย่างเพื่อส่งยูริกลับให้ได้ ดังนั้น ครั้งนี้จึงอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน หลังร่ำลากันแล้ว ไคล์ก็ได้ให้ที่คาดหน้าผากกับยูริติดตัวไปด้วย
ในการออกศึกครั้งนี้ ยูริได้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาการและความสามารถต่างๆ ทั้งด้านการต่อสู้ การวางแผนและการสงคราม โดยเริ่มจากจะลอบเข้าเมืองเฉพาะพวกผู้หญิง
![]() |
ผู้หญิงจะแสดงฝีมือล่ะ ผู้ชายหลบไป |
![]() |
ปลอมตัวเป็นคณะนางรำค่ะ อิลกลุ้ม 5555 ปล. เหยี่ยวตัวนี้คือนกที่ยูริเลี้ยงไว้ ชื่อ ซิมเชค |
จากการแสดงความสามารถของยูริในครั้งนี้ บรรดาคนสนิททั้งหลายที่ประจักษ์ในฝีมือ ยิ่งมีความประสงค์อย่างแรงกล้าว่าต้องการให้ยูริเป็นราชินีและทาวานาอันนา (ตำแหน่งสูงสุดของผู้หญิงที่อาณาจักรที่ถือว่ามีอำนาจด้วย นอกจากปรนนิบัติกษัตริย์อย่างเดียว)
แล้วยูริก็รุกทัพต่อ เพื่อจัดการกับอาซาว่า (อาณาจักรอิสระที่มีราชินีปกครอง) ที่มาทำการรุกรานฮิตไทต์ก่อน จนเกือบจะชนะแล้วนั้น ฟากอาซาว่าจึงได้ส่งองค์หญิงอเล็กซานเดียร์มา หมายจะมากำนัลให้แก่แม่ทัพฮิตไทต์
![]() |
องค์หญิงอเล็กซานเดียแห่งอาซาว่า เตรียมใจมาพร้อมละที่จะเป็นของกำนัลกับแม่ทัพฮิตไทต์ |
พอมาที่เรื่องกลับญี่ปุ่น มีหรือที่นาเกียจะยอมง่ายๆ (หล่อนต้องได้หัวยูริให้ได้ ยึดมั่นมาก) ฝากนาเกียนั้นอุลฮีก็ได้กลับเข้ามาสมทบ พร้อมทั้งที่มีศึกทั้งหมดนี่คือแผนการที่จะให้ทั้งไคล์และยูริออกนอกฮัตตูซ่า เพราะหล่อนวางแผนถาวรไว้ ในคือใช้อำนาจทำลายบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องใช้ในการทำพิธีส่งตัวยูริซะ
ในระหว่างเดินทัพกลับนั้น องค์หญิงน้อยที่ติดยูริ ก็แอบติดมากับทัพด้วย จนราชินีอาซาว่าต้องมาตาม และเมื่อยูริเห็นราชินีอาซาว่าที่เป็นห่วงองค์หญิงน้อย ก็พลันให้คิดถึงแม่ตัวเอง อีกทั้งยังครอบครัวที่จากมาอีกด้วย ทันใดนั้นก็มีม้าเร็วมารายงานข่าวเรื่องที่ราชินีสั่งให้ทำลายบ่อน้ำ ดังนั้นจากกำหนดการเดิมที่ว่าเดินทางทัน ก็ต้องรีบซะแล้ว แม้ว่าไคล์จะให้คนคอยถ่วงเวลาขัดขวางอยู่ แต่ก็ไม่ได้นานนัก ฟากอิลเมื่อรู้สถานการณ์ดังนั้น ก็เริ่มหันมาพูดกล่อมยูริว่าไม่ต้องกลับ แต่ฮาดี้และฝาแฝดที่สงสารยูริกลับสนับสนุนให้ยูริรีบเดินทาง
ทางไคล์ที่อยู่ประจันทัพกับอียิปต์อยู่นั้น เมื่อส่งหัวหน้ากองทั้งหมดให้ไปอยู่กับยูริ ทางนี้จึงเหลือรองหัวหน้ากองแทน และแม้ด้วยความสามารถของไคล์ทัพจะยังแข็งแกร่งอยู่ แต่ก็ไม่เท่าเดิม แล้วม้าเร็วจากฮัตตูซ่าก็ได้เข้ามาแจ้งเรื่องนาเกียจะทำลายบ่อน้ำ วูบแรกนั้นไคล์เผลอนึกดีใจที่ยูริจะไม่จากไปไหน แต่พอเมื่อมาได้สติ ก็กลับต้องรู้สึกรังเกียจตัวเองที่เห็นแก่ตัว แล้วก็มีความรู้สึกมุ่งมั่นที่จะต้องรีบจัดการกับทัพทางนี้ให้เสร็จ และส่งคนไปขัดขวางราชินีไว้ด้วย
ในส่วนของทัพอียิปต์ในคราวนี้นั้น รามเสส ได้เป็นรองแม่ทัพ ซึ่งสำหรับทัพอื่นๆ ก่อนหน้านั้น รามเสส ไม่ได้ให้ความสนใจเลย เพราะไม่มีประโยชน์ในการรบกัน แต่คราวนี้ต่างออกไป เพราะการกำจัดไคล์ได้ หมายถึงจะได้ตัวยูริด้วย จึงมุ่งมั่นว่าจะต้องใช้โอกาสนี้แหละ กำจัดไคล์ให้ได้ แล้วในจังหวะหนึ่งที่ชุลมุนกันนั้น รามเสสก็ควบม้าอ้อมมาด้านหลังและลอบยิงศร ถูกเข้าที่อกของไคล์พอดี
ด้านยูริก็ตั้งหน้าตั้งตาควบอัสลันกลับฮัตตูซ่า แต่จู่อัสลันก็หยุดวิ่ง พร้อมออกอาการต่างๆ จนฮาดี้สันนิฐานว่าอัสลันคงรู้ว่ายูริจะไม่ได้ขี่อีก เมื่อปลอบอัสลันจนควบไปได้สักพัก ที่คาดศีรษะที่ยูริได้มาจากไคล์ก่อนออกทัพก็ขาดโดยไม่มีสาเหตุ แล้วก็มีม้าเร็วมาบอกข่าวเรื่องทัพไคล์กำลังเพลี้ยงพล้ำ(ก็แน่ล่ะ กำลังสำคัญส่งมาอยู่กับยูริหมด) ซ้ำยังถูกศรเข้าที่หน้าอกบาดเจ็บอีก (สรุปยังไม่ตาย) ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ยูริจะต้องตัดสินใจเลือกระหว่างครอบครัวและความรัก เพราะถ้าไม่กลับตอนนี้ หมายความว่ายูริจะไม่ได้กลับอีกเลย และสุดท้ายยูริก็ให้หัวใจเลือก (เน่าเนอะ) สรุปเลือกไปช่วยไคล์และทำใจว่าจะอยู่ที่นี่ตลอดไป
ด้านทัพที่ประจันกับอียิปต์ เมื่อไคล์บาดเจ็บก็ต้องถอนทัพพักรบก่อน ซึ่งฝั่งอียิปต์ที่นำโดยแม่ทัพไม่ได้เรื่องก็พักตาม รามเสสก็ได้แต่โวยวายว่าต้องรีบอาศัยจังหวะนี้จัดการไคล์ ก่อนที่จะมีทัพเสริมมา แต่ก็ช้าไปล่ะ เมื่อทัพเสริมของยูริมาถึง รามเสสเมื่อเห็นว่าโอกาสที่มีมันเสียไปแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว ก็ชิ่งกลับไปก่อน
ด้านไคล์เมื่อรู้ว่ายูริมา ก็ตกใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมยูริไม่กลับ แต่ก็แอบดีใจ เมื่อมียูริและกำลังหลักกลับมาพร้อม ไคล์ก็ฮึกเหิมขับไล่อิยิปต์กลับไปได้ และเมื่อไคล์กับยูริได้เจอกัน ยูริก็พะวงกับอาการบาดเจ็บของไคล์ (รอบมาได้ เพราะได้ก้อนดินสารรักที่ยูริเคยส่งให้ ช่วยลดแรงของศร พี่ท่านพกติดตัวไว้) แต่ไคล์กลับรีบถามว่าทำไมยูริไม่กลับ แล้วถามย้ำว่ารู้ความหมายของการไม่กลับครั้งนี้หรือเปล่า ว่ามันหมายความว่ายูริจะต้องอยู่ข้างกายกับไคล์ในฐานะอะไร แล้วยูริก็ตอบว่ารู้ดีอยู่แล้วทุกอย่าง สรุปเรื่องราวและความรู้สึกของทั้งสองคนก็เป็นอันเคลียร์กันไป
to be continue...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น