วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Anatolia Story (Part 14) by Chie Shinohara

เมื่อไคล์ชิงตัวยูริมาจากรามเสสได้แล้ว ไคล์ก็ดุยูริทันทีถึงพฤติกรรมที่เสี่ยงอันตรายอันไม่สมควรกระทำในฐานะ ผบ.ทบ. ซึ่งรูซาฟาจะช่วยออกรับแทนแล้ว แต่ยูริห้ามไว้ก่อน เพราะยอมรับว่าตนกระทำเรื่องไม่ควรจริงๆ แต่เมื่อกลับมาอยู่ในห้องส่วนตัวกันสองต่อสองไคล์ก็ขอโทษที่ขึ้นเสียงใส่ ซึ่งยูริเองก็บอกว่าเข้าใจ แล้วทันทีที่เริ่มจะมีสัมพันธ์กันยูริกลับห้ามไว้ พร้อมทั้งบอกว่ามีเรื่องต้องคุยกันก่อน นั่นคือยูริจะขอละการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ผบ.ทบ. (ซึ่งเป็นการทำตามเงื่อนไขในการขึ้นเป็นราชินีด้วย) เพราะทำเพื่อคนสำคัญ แล้วคนสำคัญที่ว่านั่นคือใคร ไคล์รับซักยูริทันที(ผู้ชายคนไหน กำลังจะหึงล่ะ) แล้วยูริก็จับมือไคล์ไปวางไว้ที่หน้าท้องตัวเอง ทำให้ไคล์รู้ว่ายูริกำลังท้อง


ยูริซึ่งกลัวว่าไคล์จะไม่ชอบใจที่ตัวเองท้องในช่วงเวลาที่ต้องพิสูจน์ตัวเองในฐานะ ผบ.ทบ. อีกทั้งกำลังประจันหน้ากับทัพอิยิปต์อยู่ เมื่อไคล์ที่นิ่งเงียบไปจู่ๆ ก็ตะโกนเรียกสามพี้น้องลั่น ยูริยิ่งใจเสียหนักกว่าเดิม

แต่เมื่อคนสนิทที่ได้ยินเสียงไคล์ ไม่เพียงแค่สามพี่น้อง ทุกคนตามเข้ามาหมด แล้วไคล์ก็สั่งให้เตรียมอาหารบำรุงต่างๆ ด้วยท่าทีร้อนรน ทำให้ยูริถามไคล์ต่อทันทีว่าตัวเองสามารถเก็บเด็กไว้ได้ใช่มั้ย แล้วไคล์ดีใจใช่มั้ย


เมื่อคนสนิททั้งหลายได้ยินเรื่อง ก็รีบแสดงความยินดี แล้วจะรีบไปป่าวประกาศข่าวดีนี้ แต่ไคล์รีบห้ามไว้ ไม่ให้เรื่องที่ยูริท้องหลุดออกไปโดยเด็ดขาด เพราะหากนาเกียรู้เรื่อง ย่อมต้องไม่วางเฉยแน่นอน

ในระหว่างนี้ ยูริ ก็ถอนตัวออกจากทัพหน้า และไคล์แต่งตั้งให้รูซาฟาดูแลแทน ส่วนไคล์เองก็ทะนุถนอมยูริ แต่แล้วฝาแฝดก็ทนอยากไปขอพรให้ยูริไม่ไหว ปลอมตัวไปขอพรที่วิหาร แล้วก็ได้พูดคุยกับนักบวชประจำวิหาร ซึ่งเป็นอุลฮีปลอมตัวอยู่ ดังนั้นแล้วเรื่องยูริท้องก็หลุดถึงหูอุลฮีจนได้ ซึ่งไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ไปได้ เพราะหากยูริมีลูก ยูริจะได้รับการแต่งตั้งเป็นราชินีได้ทันที

แผนแรกของอุลฮี คือปล่อยข่าวเรื่องยูริท้องออกไป ทำให้มีบรรดาคนมากมายต่างมาอวยพร ซึ่งก็ทำให้ไคล์กังวลจนไม่ชอบใจ แต่ในเมื่อข่าวหลุดออกไปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ จนเมื่อไคล์ให้ยูริออกมาพบประชาชนเพื่อให้ประชาชนอวยพร นี่คือการพิสูจน์ต่ออุลฮีแล้วว่ายูรินั้นท้องจริงๆ แล้วไคล์ก็รีบจัดการรีบส่งยูริกลับฮัตตูซ่าโดยทันที ซึ่งจากเดิมว่าจะให้ยูริแอบเดินทางเงียบๆ แต่ตอนนี้ทำไม่ได้ซะแล้ว

ในขบวนเดินทางของอิชทาร์ทางบก มีประชาชนมากมายมารอส่ง แต่แล้วอุลฮีที่แฝงตัวอยู่ก็ก่อความวุ่นวาย จนทำให้เกี้ยวของอิชทาร์ล้มคว่ำ แต่แล้วบนเกี้ยวกลับไม่มียูริอยู่ แท้จริงแล้วไคล์รีบเปลี่ยนแผนในการเดินทางของยูริทันทีที่ประชาชนรู้เรื่องยูริท้อง โดยเปลี่ยนมาเป็นการเดินทางทางน้ำแทน

แม้กระนั้นไคล์ก็ยังไม่วางใจในความปลอดภัยของยูริ รูซาฟาที่เฝ้าดูมาตลอด และเห็นความกังวลของไคล์ จึงตัดสินใจกระโดดขึ้นเรือตามยูริ พร้อมให้คำสัญญากับไคล์ว่าจะช่วยปกป้องดูแลยูริให้ ทำให้ไคล์ค่อยคลายความกังวลลงมาหน่อย (หน้าที่ดูแลทัพของรูซาฟาเลยต้องให้คัชชุกับมิตตันช่วยกัน) ดังนั้นแล้วในขบวนของยูริหลักๆ จึงมีสามพี้น้อง รูซาฟา และมีองค์ชายมารีตามมาส่ง

แต่แม้ไคล์จะเปลี่ยนแผนทันที อุลฮีก็เตรียมแผนสำรองไว้เช่นกัน โดยจ้างให้ลูกเรือคนหนึ่งจมเรือซะ ซึ่งก็สำเร็จในคืนนั้น ส่งผลให้ทุกคนตกเรือ แต่เรือขององค์ชายมารีที่ตามมาสามารถช่วยไว้ได้ ยกเว้นยูริ ซึ่งหากันไม่เจอ แต่เมื่อรูซาฟารู้ ก็กระโดดลงไปตามหาอีก จนเจอกับยูริที่สลบอยู่ได้ แต่บริเวณนั้นก็ห่างไกลกับตัวเรือมาก ดังนั้นจึงต้องลอยคอต่อไป

ด้านไคล์แม้จะยังกังวลกับความปลอดภัยของยูริอยู่ แต่ด้วยความที่อยู่ทัพหน้า ซึ่งต้องรีบขับไล่ทัพอียิปต์ออกไป แล้วก็มีข่าวมาถึงว่าขณะนี้แม่ทัพของทัพอียิปต์คือรามเสส ซึ่งก็ทำให้ไคล์มีความหึกเหิมมากขึ้น เพราะปรารถนาจะสู้กับรามเสสอยู่แล้ว

การประจันหน้าของอียิปต์และฮิตไทต์ อยู่ในสถานะที่สูสี เพราะทั้งไคล์และรามเสสต่างก็ทันเกมซึ่งกันและกัน ในจังหวะนั้นเองที่องค์ชายมารีกลับมาส่งข่าวว่ายูริหายตัวไป ไคล์ซึ่งช๊อคอย่างแรงในสถานการณ์ที่กำลังสูสี ก็กลายเป็นจังหวะที่ทำให้รามเสสฉวย แม้รามเสสจะสงสัยว่าทำไมไคล์ถึงพลาดได้ แต่ก็รีบฉวยโอกาสนี้บุกเข้ายึดเมืองโดยทันที
ไคล์ที่เพิ่งรู้ว่ายูริหายตัวไป
จังหวะเดียวที่ช๊อค ก็โดนรามเสสบุก
องค์ชายมารีที่เห็นท่าไม่ดี ก็รีบอาสาไปจัดการกับรามเสส ไคล์ซึ่งเมื่อได้ยินก็รีบหันมาห้าม เพราะมารีไม่ใช่คู่มือรามเสสได้ แต่ก็ไม่ทันการ องค์ชายมารีบุกเข้าไปเผชิญหน้ากับรามเสส ผลคือถูกรามเสสแทงกลับมา

สำหรับไคล์ ที่เพิ่งรู้ว่ายูริหายไป แล้วน้องชายก็มาตายอีก จึงอยู่ในสภาพช๊อคอย่างหนัก ส่งผลกับร่างกายด้วย (เหมือนจะเป็นโรคกระเพาะ) ดังนั้นแล้วศึกนี้จึงต้านไม่ไหว ต้องถอยทัพ และรามเสสก็สามารถข้ามแม่น้ำมาได้ (แม่น้ำขั้นระหว่างอียิปต์และฮิตไทต์) ซึ่งถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของไคล์เลยทีเดียว
สภาพจิตใจย่ำแย่ ส่งผลกับร่างกาย
ทันทีที่อิยิปต์ได้รับชัยชนะ (ฝีมือรามเสส) ก็มีทัพของฟาโรห์โผล่มาร่วมแจม ด้วยวัตถุประสงค์ว่าจะมาเอาความดีความชอบ ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ รามเสสก็ถอนตัวกลับอย่างไม่ยี่ระ

ด้านยูริกับรูซาฟาที่ลอยคอกลางทะเล ก็ได้พบเรือค้าขายผ่านมาและช่วยไว้ แต่ก็เหมือนจะโชคไม่ดีนัก ที่เรือค้าขายนั้นเป็นของอียิปต์และกำลังจะเดินทางไปอียิปต์ ด้วยสถานะการณ์เช่นนี้ จะให้รู้ไม่ได้ว่ายูริคือใคร รูซาฟาจึงบอกว่ายูริเป็นน้องสาวของตัวเอง และอาการไม่ดี เพราะท้องอยู่และแช่น้ำเย็นนาน ต้องการหมอ แต่บนเรือไม่มีหมอ ดังนั้นรูซาฟาจึงจำต้องพายูริเดินทางไปกับเรือ เพราะอาการยูริเหมือนจะตกเลือด

รูซาฟาที่ถึงอิยิปต์แล้วก็รีบพายูริไปหาหมอ แต่ด้วยเครื่องมือไม่ถึง จึงทำอะไรไม่ได้มากนัก รูซาฟาจึงตัดสินใจไปก้มหัวขอร้องทหารปลายแถวของอียิปต์ให้ฝากข้อความให้แม่ทัพรามเสสว่าน้องสาวของตัวเองป่วยหนัก และกล่าวว่าแม่ทัพรามเสสรู้จักน้องสาวของตนพร้อมทั้งฝากห่วงคอของน้องสาวไว้ให้ด้วย ซึ่งในระหว่างขอร้องนี้ รูซาฟา ก็โดนกลั่นแกล้งประมาณหนึ่ง พร้อมยึดข้าวของของรูซาฟามาด้วย แต่ทหารปลายแถวนี้ ก็หาใส่ใจจริงจังกับคำขอร้องของรูซาฟาไม่ จนมานั่งกินเหล้าแล้วอวดเรื่องราว ทำให้ลูกน้องคนสนิท (มั้ง) ของรามเสส ที่นั่งกินเหล้าในร้านเหมือนกัน เห็นดาบที่เป็นเหล็ก (ของรูซาฟา) จึงได้เข้าไปซักถาม พร้อมบอกว่าดาบเหล็กนี้ทหารปลายแถวไม่สามารถมีได้ จึงได้จับตัวไปให้รามเสสสอบสวน

เมื่ออยู่ต่อหน้ารามเสส ทหารปลายแถวเหล่านี้ จึงรีบเล่าเรื่องที่รูซาฟาบอกไว้ พร้อมทั้งโชว์ห่วงคอที่รูซาฟานำมาให้ให้รามเสสดู ซึ่งเมื่อรามเสสเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นของยูริ และยังตกใจอย่างหนักที่รู้ว่ายูริกับกำลังป่วยหนัก

แล้วก็เอาเรื่องกับทหารปลายแถวเหล่านี้ทันที ว่าหากยูริเป็นอะไรไป จะจับไปให้จรเข้กิน แล้วให้รีบนำทางไปหายูริ แล้วรามเสสก็รีบจัดหมอไปหายูริทันที ทันทีที่รามเสสมาถึงก็ทำให้รูซาฟาโล่งใจได้เปลาะหนึ่ง ในระหว่างที่หมอกำลังรักษายูริอยู่นั้น ทั้งหมดต้องรออยู่ข้างนอก แล้วรามเสสก็พูดขึ้นทันทีว่าเด็กในท้องของยูริเป็นลูกของตัวเอง ก็ยิ่งทำให้ทหารที่ไม่ดูตาม้าตาเรือตระหนกใหญ่ แล้วยิ่งสังเกตเห็นร่องรอยบนหน้ารูซาฟา รามเสสก็มีไอเดียให้รูซาฟาสู้กับทหารโง่พวกนี้ ซึ่งทหารโง่ก็กระหยิ่มดีใจเพราะคิดว่ารูซาฟาอ่อนแอ (ก่อนหน้านี้ไม่สู้) แต่คราวนี้รูซาฟากลับสามารถจัดการให้จอดได้ในทีเดียว เมื่อเคลียร์เรื่องทหารโง่ได้แล้ว รามเสสกับรูซาฟาก็กำลังจะคุยเรื่องยูริกันเป็นเรื่องเป็นราว แต่หมอก็กลับออกมาก่อน พร้อมบอกว่ายูริปลอดภัยแล้ว แต่เด็กไม่รอด ยูริที่ฟื้นขึ้นมาและรู้ตัวว่าแท้งแล้วก็อยู่ในสภาพหมดอาลัยตายอยาก และเมื่อรักษายูริเรียบร้อยแล้ว รามเสสก็บอกรูซาฟาทันที ว่าจะพายูริกลับเมืองหลวงของอียิปต์ แม้รูซาฟาคัดค้าน แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้

ฟากสถานการณ์ทางการทหาร ทัพไคล์กลับเข้าไปตั้งรับในเมือง มีทัพอียิปต์ที่ข้ามแม่น้ำมาได้แล้วล้อมอยู่หน้าเมือง แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะฟาโรห์ไร้ความสามารถ และก็ยื้อกันอยู่เช่นนี้ เพราะไคล์ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไร แม้จะยังสามารถยันทัพฟาโรห์ไว้ได้อยู่ก็ตาม

ด้านยูริก็ปล่อยให้รามเสสพาตัวกลับเมืองหลวงด้วยสภาพหมดอาลัยตายอยาก ท่ามกลางความเป็นห่วงของรูซาฟา

to be continue...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น