เมื่อกลับมาถึงฮิตไทต์ ก็ได้มีการเฉลิมฉลองที่ชนะศึก และยังได้จัดงานศพให้กับทหารที่เสียชีวิตอีกด้วย แล้วอยู่ๆ เรื่องก็เล่าว่า ท่านอา (จากตอนที่แล้ว) ที่มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าองค์รักษ์ (ถือว่ามีตำแหน่งทางการทหารรองจากกษัตริย์) เสียจากสงคราม ดังนั้นแล้วไคล์ที่มีความชอบ จึงถือเป็นตัวเต็งที่จะเข้ารับตำแหน่งนี้ ซึ่งยิ่งทำให้ราชินีนาเคียยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่
เมื่อเหตุการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่บรรยากาศไม่ปกติ ยูริที่ยังเศร้าอยู่ที่ไม่ได้กลับบ้าน ก็เสแสร้งทำร่าเริง ไคล์ที่มองดูอยู่ก็ไม่สบายใจ คนอื่นๆ ก็ห่วงบรรยากาศของคนทั้งคู่ อีกทั้งทั้งคู่ยังตกลงว่าจะแยกห้องกันนอนอีกต่างหาก (ยูริและไคล์ไม่อยากผูกพันกันมากกว่านี้)
ซานันเลยชวนคุยว่าไคล์น่าจะปรับความเข้าใจตอนอยู่กับยูริสองต่อสอง ไคล์เลยบอกว่าถ้าทำงั้นได้ก็ดี ทุกคนได้ยินอย่างนั้นก็ชะงักและอึ้งกันไป (อึ้งทำไมว่ะ) แล้วซานันเลยค่อยตั้งสติแล้วถามว่า อย่าบอกน่ะว่ายังไม่มีอะไรกัน ไคล์ก็หน้าแดงมีริ้วแดงพาดผ่านส่ายหน้ายอมรับว่ายังไม่มีอะไรกัน ทุกคนก็อึ้งรอบสอง แล้วซานันก็รีบเช็คใหญ่ว่าไคล์ป่วยหรือเปล่า อิลก็รีบให้คิกคูรี่ไปตามหมอ (5555 เพราะไคล์ขึ้นชื่อเรื่องผู้หญิง ดังนั้นไม่น่าเป็นไปได้ที่จะอยู่ด้วยกันเป็นปีโดยไม่มีอะไรกันได้) ไคล์เลยบอกเหตุผลที่ยังไม่ทำอะไรยูริ เพราะว่าสักวันต้องส่งยูริกลับ เลยไม่อยากผูกพันมากกว่านี้ แล้วอิลก็เข้าโหมดจริงจังถามว่า ไคล์ไม่มั่นใจว่าจะทำให้ยูริมีความสุขจนลืมทุกอย่างเหรอ จากนั้นก็มีพูดบิ้วกันอีก
ในขณะเดียวกัน ทางอิยิปต์ (อีกอาณาจักรใหญ่ที่เหลือ ตอนนี้เหลือแค่ฮิตไทต์กับอียิปต์เท่านั้นล่ะ) กษัตริย์ตุตันคาเมนก็โดนวางยา ตายตั้งแต่ยังหนุ่ม พระชนนีของอียิปต์ (เนเฟอติติ พี่สาวขององค์ชายรัตติกาล) ก็บอกให้ราชินี (ลูกสาว) รีบเลือกสวามี เพื่อที่จะได้ขึ้นมาเป็นฟาโรห์คนต่อไป ทางราชินีก็ประกาศออกมาทันทีว่าจะไม่ยอมแต่งกับคนอียิปต์ เพราะไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนวางยาฟาโรห์ตุตันคาเมน
เท่านั้นล่ะ ทางอียิปต์เลยส่งคนมาเพื่อเชิญองค์ชายของฮิตไทต์ไปราชาภิเษกด้วย ทางไคล์หลังจากที่คุยกันก่อนหน้านี้ ก็หมกหมุ่น (มากๆ) อยู่แต่กับประโยคคำถามของอิล จนเริ่มคิดที่จะบิ้วยูริล่ะ ในจังหวะที่ยูริกำลังเคลิ้มๆ ตาม คิกคูรีก็เปิดประตูผลั้วะเข้ามา เรื่องข่าวของทางอิยิปต์ที่ว่า เลยต้องรีบเข้าราชสำนักเพื่อประชุมเรื่องดังกล่าว
แรกเริ่มเดิมที ทางกษัตริย์ฮิตไทต์เองก็ระแวงมากอยู่ เนื่องจากยังเป็นประเทศศัตรูกัน จะให้ส่งองค์ชายไปให้ง่ายๆ ก็ดูน่าอันตรายไป แต่ทางคนส่งสารอียิปต์ก็ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นอกจากจะอภิเษกแล้ว จะแต่งตั้งให้องค์ชายของฮิตไทต์เป็นฟาโรห์ของอียิปต์อีกด้วย เมื่อเห็นข้อเสนอดังนั้นแล้ว แนวคิดของทางฮิตไทต์ก็เริ่มเปลี่ยน ด้วยหากว่าองค์ชายฮิตไทต์ได้เป็นฟาโรห์อียิปก็จะได้ไม่ต้องรบกันอีก และไม่ต้องมีสงคราม
แต่แรกเริ่มเดิมทีที่คนอียิปต์มาขอองค์ชายไป ราชินีนาเคียก็รีบสนับสนุนให้ส่งไคล์ไป เพราะจะได้เขี่ยให้พ้นๆ ทาง และเมื่อกษัตริย์ได้ทราบถึงข้อความทั้งหมดจากทางอียิปต์แล้ว จึงตัดสินใจว่าจะยอมส่งหนึ่งในองค์ชายไป(ยกเว้นองค์โตที่เป็นรัชทายาท) แต่จะไม่ระบุว่าจะเป็นใคร โดยบอกว่าจะหาวิธีเลือกที่เหมาะสม แล้วอุลฮีที่อยู่่ในการประชุมด้วย (ตามอยู่กับราชินี) ก็เสนอมาว่าให้ใช้การแข่งขันต่อสู้บนรถม้า องค์ชายที่ชนะจะได้ไปเป็นฟาโรห์ที่อิยิปต์
เมื่ออุลฮีเป็นคนเสนอ นั่นหมายความว่าเป็นแผนร้าย คือเขากะไว้ว่าไคล์ต้องชนะชัวร์ เพราะไคล์เก่งที่สุดในอาณาจักรล่ะ และจากนิสัยไคล์ ไม่มีทางล้มมวยอยู่แล้ว เมื่อยูริรู้อย่างนี้ (อิลเล่าและอธิบายให้ฟัง) ก็ไม่อยากให้ไคล์ไป (หล่อนไม่มีเหตุผล แค่ไม่อยากจากกันเท่านั้น) โดยที่ไคล์ไม่ได้มีเรื่องอะไรเข้าหูเลย ในขณะที่คนอื่นเขากำลังคิดเรื่องสำคัญกันอยู่ พี่ท่านคิดถึงแต่คำพูดของอิลที่ว่าจะให้ทำให้ยูริเป็นของตัวเอง (หมกมุ่นมากกกก)
และในวันที่เข้าเฝ้ากันนั้น ก่อนเข้าเฝ้ายูริก็ได้เจอบุคคลสำคัญของเรื่องอีกคน นั่นคือองค์ชายจูดา ลูกชายของราชินีนาเคีย ที่นางพยายามเหลือเกินที่จะให้ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์คนต่อไป องค์ชายจูดานั้น แม้จะมีแม่ร้ายกาจเยี่ยงนั้น แต่เด็กน้อยเป็นเด็กดี เรียบร้อย ผมทอง ออร่าวิ้งๆ มาก ตั้งใจที่อยากจะทำตัวเป็นประโยชน์กับไคล์ที่จะได้ครองราชย์ในอนาคต ซึ่งไคล์เองก็เอ็นดูจูดาในฐานะน้องไม่น้อย (ก็น้องเป็นเด็กดีอ่ะ)
จูดาเปิดตัวมาก็มีบทเลย ในวันที่จะทำการแข่งขันเพื่อคัดเลือกองค์ชายไปอียิปต์นั้น จูดาได้วางแผนกับยูริว่าตัวเองจะยอมไปเอง เพราะฮิตไทต์จะขาดไคล์ไม่ได้ ดังนั้นจึงเอายานอนหลับ(มั้ง) มาให้ยูริเอาไปวางยาไคล์ ซึ่งระหว่างวางแผนกันซานันก็แอบฟังอยู่ แล้วยูริก็วางยาสำเร็จจนได้ แต่ทางจูดาไม่สำเร็จ เพราะซานันที่รู้แผน เข้ามาแย่งธง (แข่งกันแย่งธง มั้งน่ะ) ซะก่อน
เมื่อผลออกมาว่าซานันจะต้องไปอิยิปต์ ไคล์เองก็ขัดทันที เพราะมันหมายความว่าซานันจะต้องไปผจญกับเสือสิงห์กระทิงแรดที่อิยิปต์คนเดียว แล้วยังเสี่ยงกับการโดนลอบฆ่าอีก เพราะล่าสุดตุตันคาเมนก็ตายเพราะโดนลอบวางยา แต่ซานันกลับว่าไม่เป็นไร เพราะการที่ซานันไป ก็เหมือนกับช่วยให้ฝันของไคล์เป็นจริงด้วย เพราะจะได้ไม่ต้องมีสงคราม ไม่ต้องรบกันอีก ไคล์เห็นความตั้งใจของซานัน เลยยอมให้ไป ส่วนทางยูริและจูดา คนวางแผน เมื่อไม่เป็นไปตามแผน (คนชนะไม่ใช่จูดา) ก็รีบเข้ามาสารภาพกันใหญ่ แต่เมื่อซานันให้เหตุผลแล้วจูดาก็ไม่ว่าอะไรอีก แต่ท่าทางยูริคือรู้สึกผิด เพราะตัวเองคิดถึงแต่ว่าไม่อยากให้ไคล์ไป แต่ไม่ได้คิดถึงองค์ชายคนอื่นเลย เลยรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นต้นเหตุให้ซานันต้องไปอียิปต์
จากความรู้สึกผิดต่อซานัน ยูริเลยขอตามขบวนไปส่งซานันถึงชายแดนด้วย ส่วนทางราชินีก็ขัดใจเสียเหลือเกิน เพราะกำจัดไคล์ไปไม่ได้ ยังอยู่เป็นเสี้ยนหนามชิ้นเบ้อเริ้ม แล้วซานันยังจะไปเป็นใหญ่ที่อิยิปต์อีก ยิ่งสนับสนุน power ของไคล์เข้าไปใหญ่ ราชินีเลยตัดสินใจสั่งการให้จัดการซานันซะ
และแล้วก็ถึงวันเดินทาง เมื่อขบวนของซานันและยูริเดินทางออกไปแล้ว คนของราชินีก็กำลังจะตามไปจัดการ แต่แล้วก็เจอขบวนของไคล์ที่รู้ทันไล่เปิดเปิงมาซะก่อน แต่แล้วเมื่อกลับมาทางราชินี หล่อนกลับไม่ยี่ระ แล้วยังบอกว่าได้เตรียมแผนสำรองไว้
แผนสำรองของราชินีคือการส่งคนเข้ามาแฝงอยู่ในขบวนติดตามของซานันนั่นเอง
ในระหว่างเดินทางคืนหนึ่ง จังหวะที่ซานันเหม่อมองดวงจันทร์ ยูริก็เข้ามาบอกว่าซานันเหงาจริงๆ ด้วย แล้วก็พูดถึงกันว่า แท้จริงแล้วซานันก็ไม่อยากจากบ้านเกิด ซานันกลับตอบว่าหากไม่ได้ผู้หญิงที่ต้องการจริงๆ จะแต่งกับใครก็เหมือนกัน (สรุปว่าชอบยูริจริงๆ แต่ยูริก็ยังไม่รู้ตัว เพราะสุดท้ายซานันก็ทำเป็นล้อเล่น) แล้วยูริก็พูดปิดท้ายว่าขอให้ซานันรักราชินีอียิปต์จริงๆ แล้วทุกคนก็จะมีความสุข เมื่อซานันได้ยินดังนั้น ก็เลยให้คำสัญญากับยูริว่าจะรักราชินีและคนอียิปต์ แล้วก็จะทำให้ราชินีและคนอียิปต์รักตัวเองด้วย (ความคิดสวยงามมาก ตอนจบที่ฟินแบบที่ทุกคนอยากได้) ยูริได้ยินอย่างนั้นก็สบายใจว่าซานันจะต้องเป็นฟาโรห์ที่ดีมาก แล้วก็มีความสุขด้วย
แต่แล้ววันรุ่งขึ้น คนของราชินีก็ได้เริ่มแผนการโดยการวางยา (ทุกคนโดนหมดไม่เว้นซานันและยูริ) แล้วลอบฆ่า เมื่อซานันและยูริรู้ตัว ซานันก็พยายามปกป้องและให้ยูริรีบหนีกลับมาหาไคล์ จังหวะที่ซานันกำลังพยายามดันยูริขึ้นหลังอัสลัน ก็มีหอกพุ่งเข้ามาเสียบอกซานันจากด้านหลังต่อหน้าต่อตายูริ แล้วก็มาห่าธนูพุ่งเข้าใส่ยูริและอัสลันจนล้ม แล้วทุกคนก็หมดสติ ส่วนทางด้านคนร้าย เมื่อจัดการตามแผน ก็หักหลังกันตามสูตร จนเหลือคนเดียวแล้วทำทีเป็นผู้รอดชีวิตของขบวนจากการโดนอียิปต์โจมที (สรุปแผนแต่แรกของราชินีคือกำจัดซานันและยูริ แล้วป้ายความผิดให้อียิปต์ โดยไม่สนว่าจะมีสงคราม)
เมื่อคนร้ายคนสุดท้ายจากไปแล้ว อัสลันก็พยายามลุกขึ้น แล้วเขี่ยดันยูริที่หมดสติอยู่ขึ้นหลังแล้วจากมา ปล่อยให้ที่เหลือโดนพายุทรายฝังกลบ (โถ ไปซะล่ะ กิ๊ก no.1)
เมื่อคณะองค์ชายออกจากฮิตไทต์ไปแล้ว แต่ยังไม่ถึงอิยิปต์ โดยไม่มีใครรู้ ทางอิยิปต์ก็คิดว่าฮิตไทต์หลอกลวง รับปากไว้ แต่ไม่ยอมส่งมา แล้วหาเรื่องใส่ร้ายอียิปต์ ทางฮิตไทต์ไอ่เจ้าคนร้ายที่ว่าก็กลับไปเล่าเรื่องเท็จเรียบร้อย เมื่อกษัตริย์ฮิตไทต์ได้ยินเรื่อง ก็สั่งสถานการณ์เตรียมทำสงครามทันที ทางไคล์แม้จะยังสงสัยอยู่ว่า ถ้ามีการโจมตีจากอียิปต์จริง ทำไมเหลือไอ่เจ้าคนนี้กลับมาคนเดียว แต่ความโกรธจากการที่ต้องเสียซานันและยูริ ทำให้มัวแต่โกรธ (เงียบ) และยังไม่ได้ทำอะไรซะที สถานการณ์ของทางสองฝั่งก็เข้าสู่ภาวะตึงเครียด พร้อมรบทันที
ทางยูริ ระหว่างที่อัสลันพารอนแรมกลางทะเลทรายก็ได้ไปเจอกับทหารอียิปต์คนหนึ่ง ผมสีทอง ตาสองสี ซึ่งเรื่องจัดฉากเปิดตัวนายทหารคนนี้ด้วยรูปใหญ่เต็มหน้ากระดาษ(5555) พร้อมทั้งแสดงให้เรารู้ว่านายทหารคนนี้ไม่เห็นด้วยกับการมีฟาโรห์เป็นองค์ชายฮิตไทต์ และไม่แยแสกับเรื่องราวขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้น แล้วปลีกตัวออกจากทัพอียิปต์มาคนเดียวอย่างไม่แคร์สื่อ
แรกเริ่มเดิมทีนายทหารเจอยูริล้มลงและบาดเจ็บอยู่ แต่ไม่ช่วยและไม่สนใจ พร้อมปล่อยไว้ แต่แล้วในตอนที่พักดื่มน้ำ ยูริที่แอบตามมาอยู่ๆ ก็เอามีดจ่อคอทั้งๆ ที่ตัวเองบาดเจ็บสาหัส แม้สภาพร่างกายจะไม่ไหว แต่ยูริก็ยังเอาแต่โวยวายกับนายทหารว่าให้ช่วยพากลับไปหาไคล์ และจะปล่อยให้เกิดสงครามไม่ได้ แล้วก็สลบไป
นายทหารที่อึ้งทึ่งกับความใจเด็ดของยูริ เลยช่วยปฐมพยาบาลให้ แต่แล้วเมื่อนายทหารกำลังจะเอาลูกธนูที่ปักหลังยูริออก ยูริก็ได้สติแล้วบอกปฏิเสธไม่ให้เอาลูกธนูออก แม้นายทหารจะสงสัย แต่ก็ไม่อยากอะไรมากกับยูริ จากนั้นนายทหารก็พายูริมาบริเวณที่ฮิตไทต์กับอิยิปต์กำลังฮึ่มฮั่มกันอยู่ แต่ในระหว่างเดินทาง ทั้งคู่ก็มีบทสนทนาชวนคุยกันบ้าง นายทหารก็ได้ถามถึงอิชทาร์ ณ ตอนนี้นายทหารก็เลยรู้ว่ายูริคือใคร (แต่ฝันสลายไป เพราะจินตนาการไว้ว่าเป็นสาวสวยหุ่นสะบึม)
ในจังหวะที่ฮึ่มฮั่มกันได้ที่ ทันทีที่กษัตริย์ฮิตไทต์สั่งลุย ไคล์ที่กำลังหมกมุ่มกับการโทษตัวเองก็ได้สติว่าต้องรีบห้ามแล้วสืบสาวราวเรื่องกันซะก่อน แต่ไม่ทันซะล่ะ ทั้งสองฝ่ายวิ่งเข้ามาจะโช้งเช้งกันแล้ว แต่แล้วก็มีลูกธนูฝ่ากระแสเข้ามาห้ามทั้งสองฝั่ง ลูกธนูดอกนั้นมาจากนายทหารที่พายูริมา และยูริก็รีบควบอัสลันเข้ามา ไคล์ก็รีบโผเข้ามารับยูริจากหลังอัสลัน แล้วยูริก็รีบเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดทันทีพร้อมทั้งชี้ตัวคนร้ายที่อยู่กับในทัพฮิตไทต์อย่างหน้าตาเฉย เมื่อคนร้ายเห็นภาวะคับขันของตัวเอง ก็เกือบจะหลุดแล้วว่าราชินีเป็นคนสั่ง แต่ราชินีก็มาขัดแล้วกล่าวหาว่ายูริเสียสติ พูดเรื่องเหลวไหลและไม่มีหลักฐาน
เมื่อยูริได้ยินราชินีถามหาหลักฐาน ยูริเลยบอกว่ามีหลักฐานว่าคนร้ายเป็นคนที่ตัวเองชี้จริงๆ โดยลุดขึ้นหันหลังโชว์ธนูที่ปักหลังอยู่ แล้วบอกต่อทันทีว่า ลักษณะการพันหัวธนูของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ดังนั้นหากดึงธนูออกมาก็จะพิสูจน์ได้ว่าเป็นของใคร แล้วบอกให้ไคล์ดึงหัวธนูออกมาต่อหน้าทุกคน ซึ่งแรกเริ่มไคล์ก็กังวลกับสภาพของยูริ แต่ยูริบอกว่าเพื่อซานันและกระชากหน้ากากของราชินี ไคล์จึงตัดสินใจทำ (ดึงสด) เมื่อไคล์ดึงลูกธนูออกมาแล้ว ท่ามกลางสายตาทุกคนที่ดูอยู่ รวมทั้งนายทหารที่พายูริมา ที่อึ้งและทึ้งกับความใจเด็ดและความคิดที่ลึกซึ้งของยูริ และแล้วความจริงก็กระจ่าง เจ้าคนร้ายเมื่อรู้ตัวว่าซวยแล้วก็จะวิ่งหนี แต่ก็โดนอุลฮีที่อยู่ตรงนั้นฟันทิ้งทันที พร้อมทำหน้าตกใจ แล้วบอกว่าตัวเองตกใจเลยเผลอฟันไป ยูริที่เจ็บปวดกับการดึงสดอยู่ก็ได้แต่เจ็บใจว่าพยานที่จะกระชากหน้ากากราชินีโดนปิดปากไปซะแล้ว แล้วก็สลบไป
สถานการณ์ที่ฮึ่มฮั่มกันก่อนหน้านี้ก็ได้รับการคลี่คลาย ไคล์ที่ให้พายูริไปรักษาก็เข้ามาเจรจากับทางอียิปต์ พร้อมทั้งมาทำความรู้จักกับนายทหารที่ช่วยพายูริมา นายทหารที่ว่าจึงได้ทำความเคารพไคล์พร้อมทั้งแนะนำตัวว่าตัวเองคือ รามเสสเป็นหัวหน้ากองของอียิปต์ แม้ท่าทีจะนอบน้อมกับไคล์ แต่ในใจนั้นกลับตีค่ายูริแล้วไว้ว่าเป็นผู้หญิงที่มีค่าคู่ควรกับกษัตริย์ พร้อมทำสีหน้าว่าตูจะแย่งแล้วน่ะ (555)
ในระหว่างที่ยูริสลบไปหลายวันนั้น ไคล์เองก็กลับมานอนห้องเดียวกับยูริอีกครั้ง (ก่อนหน้านี้แยกห้องกันนอน) โดยให้เหตุผลกับยูริ (ตอนที่ตื่นมาแล้ว) ว่าตั้งแต่เกิดเหตุการณ์กับซานันและยูริก็นอนไม่หลับ ต้องมียูริอยู่ด้วยถึงจะนอนหลับ แล้วคู่นี้ก็สวีทวิ้ดวิ้วกันเหมือนกัน
![]() |
เมื่อเพิ่งรู้ว่าทั้งคู่ยังไม่ได้อย่างว่ากัน |
![]() |
อิลกรอกหูว่าทำไมไคล์ไม่ทำให้ยูริมีความสุขจนลืมทุกอย่าง แล้วไคล์ก็หมกมุ่มกับความคิดที่ว่า |
![]() |
จูดา ลูกของราชินี แต่เป็นเด็กดี เปิดตัวด้วยออร่าวิ้งๆ |
![]() |
ระหว่างที่คนอื่นกำลังเคร่งเครียดกับการที่จะต้องมีองค์ชายไปอียิปต์ พระเอกเรามัวแต่หมกมุ่นกับคำพูดของอิลที่ว่าจะทำให้ยูริมีความสุขจนลืมทุกอย่าง |
![]() |
การบอกลากันของพี่น้องที่รักกันมาก เมื่อซานันต้องไปอียิปต์ |
![]() |
ซานันที่สัญญาว่าจะรักราชินีและชาวอียิปต์ และจะทำให้ราชินีและชาวอิยิปต์รักตัวเองด้วย ทุกอย่างสวยงาม น่าจะแฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่แล้ว... |
![]() |
ไปซะล่ะ กิ็ก No.1 ของชั้น |
![]() |
ม้าอะไร จะฉลาดเกินไปล่ะ |
![]() |
วาระสุดท้ายของซานัน เศร้า |
![]() |
ทันทีที่กิ็กตาย ชู้ชั้นก็มาทันที 555 รามเสสค่ะ |
![]() |
ไคล์ดึงลูกศรสดจากหลังยูริ รามเสสอึ้ง |
![]() |
รามเสสแนะนำตัวกับไคล์ (ที่มาขอบคุณ) ด้วยความนอบน้อม แต่ความคิดและสีหน้าไม่ใช่น่ะค่ะ ยกย่องยูริอยู่ และจ้องจะแย่งล่ะ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น